วันนี้ (2 พ.ค. 2566) นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต ส.ส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยหลังศาลฎีกาอ่านคำพิพากษาตัดสินคืนสิทธิ์การเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.นครนายก เขต 2 เบอร์ 2 พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) หลังจากถูก กกต. เขต 2 นครนายก ใช้ดุลพินิจตัดสิทธิ์การลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ของตน โดยอ้างเหตุว่า ขัดต่อ พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกต้ังส.ส. พ.ศ. 2561 มาตรา 42 (3) และรัฐธรรมนูญปี 2560
เพราะเข้าข่ายมีคุณสมบัติต้องห้ามตาม กฏหมาย 2 ฉบับ เนื่องจากถือหุ้นบริษัทแอดวานซ์ อินโฟเซอร์วิสจํากัด (มหาชน) หรือ AIS โดยบริษัทดังกล่าวไปร่วมลงทุนกับ 2 บริษัท คือบริษัทเทเลอินโฟ มีเดีย จํากัด (มหาชน) และบริษัทเยลโล่เพจเจส คอมเมอรส์ จํากัด
ศาลฎีกานัดอ่านคำพิพากษาในช่วงบ่ายวันนี้ โดยได้ตัดสินคืนสิทธิ์ให้ตน เป็นผู้สมัครส.ส.นครนายก เขต 2 เบอร์ 2 พรรค ปชป.
ศาลท่านลงรายละเอียดในคำวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ตนมีหุ้นในบริษัท AIS จำนวนเพียง 200 หุ้น จากจำนวนหุ้นที่ชำระแล้วทั้งหมด 2,873,425,791 หุ้น และมูลค่าหุ้นทั้งหมดของบริษัท AIS ตามราคาตลาด ณ สิ้นปี 2565 เป็นเงิน 579,971,000,000 บาท
ในขณะที่หุ้นของตน มีมูลค่าตามราคาตลาดในวันเดียวกัน เป็นเงินเพียง 39,000บาท ถือว่าเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก ย่อมไม่มีอำนาจสั่งการให้ บริษัท AIS ดำเนินการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์แก่ตน และพรรคการเมืองที่ตนสังกัด หรือ เป็นโทษต่อผู้สมัครและพรรคการเมืองอื่นเพื่อประโยชน์ในการเลือกตั้งของตน หรือพรรคการเมืองของตนได้
“การที่ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาว่า ผมไม่ใช่เจ้าของ หรือมีจำนวนหุ้นในจำนวนมากพอที่จะสามารถจะทำเช่นนั้นได้ ดังนั้น การตีความตามบทบัญญัติของกฎหมายตามลายลักษณ์อักษร ให้ผมมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เพราะเหตุเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทฝ AIS เพียง 200 หุ้น ย่อมไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
การที่ กกต. เขต 2 นครนายกไม่ประกาศรายชื่อผมเป็นผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 2 จ.นครนายก จึงเป็นการไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 98(3) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.พ.ศ.2561 มาตรา 42(3) จึงมีคำสั่งให้ กกต.นครนายก ต้องเพิ่มชื่อของผม พร้อมต้องประกาศรายชื่อผม ให้กลับมาเป็นผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 จ.นครนายก ของพรรคปชป.ด้วย” นายชาญชัย กล่าว