วันที่ 3 พฤษภาคม 2566 เวลา 17.00 น.นายสุวัจน์ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส.พรรคชาติพัฒนากล้า ทั้ง 16 โดยเฉพาะสองพี่น้องบ้านใหญ่ กาญจนาวัฒนา นายสมศักดิ์ กาญจนวัฒนา ผู้สมัคร ส.ส.เบอร์ 1 เขต 3 นายสมบัติ กาญจนวัฒนา ผู้สมัคร ส.ส.เบอร์ 4 เขต 4 ได้เปิดเวทีปราศรัยย่อยครั้งที่ 4 กับพี่น้องประชาชนกว่า 5 พันคน ในเขตอำเภอโนนไทย เขตเลือกตั้งที่ 4 ที่โรงเรียนโนนไทยคุรุอุปถัมภ์ อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา
โดยโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง นายสุวัจน์ เน้นยุทธศาสตร์ความเป็นพรรคชาติพัฒนา พรรคของคนโคราช เอาเศรษฐกิจยุคทองกลับมา เอานายกรัฐมนตรีมาอยู่โคราช
นายสุวัจน์ กล่าวว่า พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี สร้างความเจริญสู่ประเทศเศรษฐกิจยุคทอง ยุคน้าชาติ เปิดประตูอีสานสู่อินโดจีน โคราชประตูสู่อีสาน แปรสนามรบเป็นสนามการค้า ดึงนักลงทุนมาลงทุน ตัดถนนสีเลน สร้างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี สร้างนิคมอุตสาหกรรมเขตสุรนารี เศรษฐกิจของประเทศ GDP โต 10% ติดต่อ 3 ปี ประเทศเป็นเสือตัวที่ห้าของเอเชีย
แต่เมื่อเกิดรัฐประหาร (23 ก.พ. 2534) เศรษฐกิจของประเทศตกเหลือ 3% พรรคชาติพัฒนารับใช้พี่น้องประชาชนมากว่า 30 ปี คำว่า “โคราชชาติพัฒนา” มาจากท่าน”ประทีป กรีฑาเวช”นักการเมืองของคนโคราช
วันนี้ พรรคชาติพัฒนาได้เติมคำว่า “กล้า” พรรคชาติพัฒนากล้า เพื่อกล้าสู้วิกฤตเศรษฐกิจด้วยนโยบาย”งานดี มีเงิน ของไม่แพง” โดยเฉพาะจังหวัดนครราชสีมา มีนโยบาย “โคราชโนมิกส์” เป็นนโยบายเฉพาะในการพัฒนาโคราชและภาคอีสาน เอาเศรษฐกิจยุคทองกลับมา ประกอบด้วยนโยบาย 5 ด้าน คือ
1.นโยบายการสร้างภาคอีสานให้เป็นระเบียงเศรษฐกิจใหม่ของโคราช
2.นโยบายการสร้างระบบคมนาคมที่เข้มแข็งและทันสมัย
3.นโยบายการสร้างให้โคราชอีสานเป็นดินแดนแห่งเมืองท่องเที่ยวที่เป็นอินเตอร์
4.นโยบายโคราชอีสานเป็นเมืองผลิตอาหารให้กับโลก
และ 5.นโยบายการแก้ไขปัญหาที่พี่น้องประชาชนประสบมากๆ คือ น้ำท่วม น้ำแล้ง น้ำประปาไม่เพียงพอ หรือนโยบายโคราชเมืองน้ำไม่ท่วม น้ำไม่แล้ง ประปาเพียงพอ
นายสุวัจน์ กล่าวว่า สำหรับปัญหาของอำเภอโนนไทย เรื่องน้ำท่วม น้ำแล้ง น้ำเค็ม น้ำประปาไม่พอใช้ สอดรับกับนโยบายโคราชโนมิกส์ ข้อที่ 5. ซึ่งเรามีทีมงาน “ไอ้หนุ่มลุ่มน้ำลำตะคอง” ที่เกาะติดกับปัญหาน้ำมาตลอด
เริ่มตั้งแต่ เขต 4 เบอร์ 4 นายสมบัติ กาญจนวัฒนา เขต 3 เบอร์ 1 กำนันเบ้า-นายสมศักดิ์ กาญจนวัฒนา เขต 2 เบอร์ 6 นายวัชรพล โตมรศักดิ์ เขต 1 เบอร์ 5 นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ถือว่า 4 ประสานในการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำ คือ เริ่มจากทำโครงการบายพาส หรือ จุดเบี่ยงน้ำ ระบายน้ำออกจากตัวลําตะคอง
ด้วยการไปสร้างคลองชลประทานที่มีของเดิมอยู่แล้วไปปรับปรุงไปขยายในการที่จะสร้างคลองชลประทานจากละลมหม้อ ไปที่บ้านโคกแฝก แล้วต่อไปให้ถึงบึงพุดซา ซึ่งเป็นบึงเก็บน้ำขนาดใหญ่ระยะทาง 15 กิโลเมตร ใช้งบประมาณ 400 กว่าล้าน
ขณะนี้กรมชลประทานบอกว่ามีงบมาแล้วบางส่วน ฉะนั้น ต้องช่วยกันไปผลักดันงบประมาณ ถ้าเราสามารถสร้างทางเบี่ยงน้ำออกจากลําตะคองได้ น้ำจะหายไปเกือบครึ่งหนึ่ง แล้วก็จะระบายออกจากตัวเมือง ผ่านคลองชลประทานไปที่บึงพุดซา จากบึงพุดซาไปที่คลองปลาร้า แล้วไปที่คลองธรรมชาติ ไหลลงไปลำเชียงไกร ไหลลงไปแม่น้ำมูล อันนี้คือ การแก้ไขปัญหาอย่างถาวร
ส่วนในเมืองในเขตพื้นที่ที่อยู่สองข้างทางของลําตะคอง จะต้องขุดลอกทํากําแพงกันดิน กันคลื่น เพื่อให้รับน้ำได้มากขึ้นและน้ำจะได้ไหลออกไปเร็วขึ้น รวมทั้งพัฒนาโครงการแก้มลิง สร้างระบบชลประทานให้ทั่วถึง อันนี้เป็นนโยบายที่จะแก้ไขปัญหาน้ำให้กับเมืองโคราชอย่างถาวร และเป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย “โคราชโนมิกส์”
“วันนี้พี่น้องประชาชนเดือดร้อนกันมาก และอยากรู้ว่าจะแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนอย่างไร ผมคิดว่านโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้านั้น ตรงกับปัญหา เพราะเราเป็นพรรคอยู่ที่โคราช เข้าใจปัญหาของโคราช ถึงได้มีนโยบายเพื่อคนโคราชโดยเฉพาะ”
ฉะนั้น พี่น้องประชาชนรวมพลังชาวโคราช รักษาพรรคชาติพัฒนา พรรคของคนโคราชรวมพลังกันเอาเศรษฐกิจยุคทองของคนโคราชกลับมา วันที่ 14 พฤษภาคมนี้ รวมพลังคนโคราช 16 เขต 16 คน พรรคชาติพัฒนากล้า หมายเลข 14