รทสช. รับตำหนิ “ทิพานัน” ทำส่วนตัวขอยิงเลเซอร์บนสะพานพระราม 8

จากกรณีที่ปรากฏข่าวว่ามีการยิงเลเซอร์ ข้อความเชิญชวนให้เลือกหมายเลขของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) บนเสาของสะพานพระราม 8 เมื่อคืนวันที่ 8 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมานั้น

ล่าสุด พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ออกมาขอชี้แจงเป็นเอกสารต่อสื่อมวลชนว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการดังกล่าว และได้สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร่งด่วน

ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่า นางสาวทิพานัน ศิริชนะ ได้ขออนุญาตต่อปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อดำเนินการดังกล่าวด้วยจดหมายส่วนตัว โดยไม่ได้หารือหรือแจ้งให้พรรคฯ ทราบหรือขออนุญาตผู้บริหารพรรคแต่อย่างใด และเมื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ทราบข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้วก็ได้ตำหนิและทำหนังสือตักเตือน พร้อมทั้งสั่งการไปยัง นางสาวทิพานัน ให้หยุดดำเนินการดังกล่าวโดยทันที

อย่างไรก็ตาม พรรครวมไทยสร้างชาติ รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและต้องขออภัยอย่างยิ่งมา ณ โอกาสนี้

ก่อนหน้านี้ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ออกมาระบุว่า พรรคไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประชาสัมพันธ์ดังกล่าว และอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า ขัดกฎหมายหรือไม่ และเป็นการกระทำของผู้ใด ซึ่งหากบุคคลที่ดำเนินการมีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรค จะดำเนินการตามมาตรการทันที

พร้อมกันนี้ยังได้ ยืนยันอีกว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้กำชับผู้สมัคร ส.ส.ใช้วิธีการประชาสัมพันธ์หาเสียงอย่างเหมาะสม ระมัดระวัง และกำชับให้กระทำตามกฎหมาย และกติกาที่ กกต.กำหนด หากพบว่า มีการประชาสัมพันธ์ที่เข้าข่ายไม่เหมาะสม พรรคจะดำเนินการแจ้งเตือน และให้แก้ไขปรับปรุงทันที

ด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงกรณีการขอใช้พื้นที่บริเวณสะพานพระราม 8 โดยระบุว่า สวนหลวงพระราม 8 และพื้นที่ใต้สะพานพระราม 8 เป็นพื้นที่ที่ กทม. อนุญาตให้ใช้ในการหาเสียงได้ โดยได้รับหนังสือขออนุญาต จากนางสาวทิพานัน มาจริง และได้แนบรูปภาพมาให้ พร้อมระบุรายละเอียดขอใช้งานและมีการฉายภาพข้อความ แต่ไม่ได้เห็นรายละเอียดว่าจะฉายขึ้นบนเสาสะพานด้วย

“ตอนที่ได้อนุญาตไป เข้าใจว่าเป็นการหาเสียงปกติ ไม่ได้ทราบว่าจะมีการฉายโปรเจคชั่นไปบนเสาสะพานพระราม 8 เพราะจริง ๆ แล้วเสาสะพานไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่อนุญาตให้หาเสียง และตัวสะพานไม่ได้อยู่ในส่วนของสวน แต่เป็นส่วนของสำนักโยธาที่เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ ซึ่งถ้าทราบตั้งแต่แรกจะไม่อนุญาตให้มีการฉายไปบนเสาของสะพาน”