น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่ย่านบางบอน ช่วย น.ส.วณิชชา ม่วงศิริ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตบางบอน-จอมทอง-หนองแขม เบอร์ 9 หาเสียงเลือกตั้ง
โดยขึ้นรถแห่ไปที่ ซ.กำนันแม้น ทักทายประชาชนในหมู่บ้าน แล้วลงเดินตลาดพิบูลย์วิทย์ 6 พบปะพ่อค้าแม่ค้า ประชาชนที่มาจ่ายตลาดเย็น พร้อมฝากให้เลือกพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งคนทั้งพรรค
จากนั้น ไปต่อที่ซอยประชาอุทิศ 69 สมทบกับทีมของ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อช่วย นายชยิน พึ่งสาย ผู้สมัคร เขตทุ่งครุ-ราษฎร์บูรณะ เบอร์ 7 หาเสียงเลือกตั้ง โดยย่านนี้มีชาวมุสลิมอาศัยอยู่จำนวนมาก โดยแวะทักทายร้านค้า ร้านขายอาหารตลอดทาง แล้วมาร่วมกิจกรรมแข่งขันฟุตซอลกระชับมิตร เชื่อมสัมพันธ์ 4 มัสยิด
นายองอาจ กล่าวถึงการหาเสียงโค้งสุดท้าย ซึ่งเหลืออีกเพียง 3 วัน ว่า เรายืนยันจุดยืนเดิมในการทำงานหนักเต็มที่ตลอดเวลาที่ผ่านมา ขณะนี้เหลืออีกไม่กี่วันก็พยายามเน้นไปทุกจุดที่ให้การสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่สนับสนุนพรรค ก็พยายามไปกระตุ้นให้ใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุด รวมทั้งชุมชนที่อาจจะยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกใคร ก็พยายามจะเข้าไปขอคะแนนเสียงให้การสนับหนุนพรรคประชาธิปัตย์ทั้งระบบเขต เบอร์ต่างๆ และบัญชีรายชื่อ เบอร์ 26 ก็จะพยายามรณรงค์ในพื้นที่ต่างๆให้มากที่สุด
ส่วนการปราศรัยใหญ่วันที่ 12 พฤษภาคมนี้ มีไฮไลท์ที่น่าสนใจอย่างไรนั้น นายองอาจ บอกว่า เป็นครั้งแรกที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ และอดีตหัวหน้าพรรค จะมาขึ้นเวทีปราศรัยทิ้งทวนในวันสุดท้ายก่อนจะไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคม ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ก็จะเน้นจุดแข็งของพรรคให้มากที่สุด คือความซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของพรรค และเรื่องนี้ทำให้ประชาชนให้การสนับสนุนพรรคมาโดยตลอด 77 ปี
อีกทั้งที่ผ่านมาประชาชนก็มีความกังวลในเรื่องของการดูดและซื้อ ส.ส. ซึ่งเป็นบ่อเกิดของความไม่สุจริต รวมถึงการซื้อเสียงด้วย และระบาดไปเกือบทั่วประเทศ เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องของการนำไปสู่การทำการเมืองที่ไม่สุจริต ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ก็พยายามจะเน้นสิ่งที่พรรคยึดถือมาโดยตลอดให้ประชาชนเกิดความมั่นใจในการสนับสนุนพรรค และเลือกผู้สมัครของพรรคทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
ส่วนการเลือกตั้งล่วงหน้าที่ผ่านมามีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ กกต. อย่างมาก จนกังวลว่าวันที่ 14 พฤษภาคม อาจจะมีปัญหาอีกนั้น นายองอาจ มองว่า การเลือกตั้งล่วงหน้ามีความบกพร่องหลายอย่างไม่ควรจะเกิดขึ้น เพราะ กกต. ชุดนี้ก็เคยผ่านการเลือกตั้งมาแล้วในปี 2562 ไม่ใช่ชุดที่มาใหม่ และทีมเจ้าหน้าที่ที่ทำงานก็ล้วนแต่มีประสบการณ์ในการเลือกตั้งมาแล้วหลายครั้ง
ดังนั้นข้อผิดพลาดต่างๆไม่ควรเกิดขึ้น ขณะนี้ยังมีเวลาก่อนวันเลือกตั้ง เชื่อว่า กกต. เห็นข้อผิดพลาดแล้วควรรีบแก้ไข อย่าให้สิ่งที่เคยเกิดขึ้นในการเลือกตั้งล่วงหน้าเกิดขึ้นอีก เพราะจะทำให้ประชาชนไม่เชื่อมั่นในผลการเลือกตั้ง ซึ่งจะเป็นอันตรายมากต่อประชาธิปไตย ถ้าคนที่คุมกฎกติกาไม่สามารถรักษากติกาให้คนมีความรู้สึกเชื่อมั่นได้ ก็จะเป็นอันตรายมาก และถ้าคนไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ก็จะเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ทั้งที่เราพยายามรณรงค์ให้คนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง
ด้าน น.ส.วทันยา กล่าวถึงการลงพื้นที่หาเสียงในหลายจังหวัด ว่า ประชาชนยังคงให้การตอบรับพรรคประชาธิปัตย์อย่างอบอุ่น โดยเฉพาะเวทีปราศรัยในโซนของจังหวัดภาคใต้ ถือว่ากระแสตอบรับและความเชื่อมั่นของคนใต้ต่อพรรคประชาธิปัตย์ยังคงมีอยู่สูงมากๆ ทั้งนี้แกนนำพรรคทุกคนก็พยายามจะเข้าไปช่วยผู้สมัครหาเสียงเลือกตั้ง เพื่อให้ได้คนทำงานมากที่สุด
นายชยิน บอกถึงเหตุผลที่ต้องเลือกตนเองเป็นผู้แทนฯ ว่า ตรเป็นคนทุ่งครุ-ราษฎร์บูรณะ พ่อก็เป็นผู้ใหญ่บ้านที่นี่ หลับตาก็รู้ว่าทุ่งครุ-ราษฎร์บูรณะ จุดไหนอยู่ตรงไหน จึงจำเป็นจริงๆที่จะต้องเลือกเบอร์ 7 เพราะเราเป็นคนพื้นที่ เรารู้ปัญหา และพี่น้องเราก็อยู่ที่นี่ จะได้ช่วยเหลือกันได้