"อาสาสมัครเลือกตั้ง" คืออะไร มีหน้าที่ยังไง ทำไมต้องระดมทุนถึง 12 ล.

12 พ.ค. 2566 | 05:01 น.
อัปเดตล่าสุด :12 พ.ค. 2566 | 05:04 น.

"อาสาสมัครเลือกตั้ง" คืออะไร มีหน้าที่ยังไง ทำไมต้องระดมทุนถึง 12 ล้านบาท มีที่มาที่ไปในการก่อตั้งจากอะไร ประชาชนจะได้รับประโยชน์อย่างไรสำหรับการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค. 66

อาสาสมัครเลือกตั้งเกิดขึ้นจากการร่วมมือของสมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (ประเทศไทย) สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ สมาคมฟินเทคประเทศไทย สมาคมเมตาเวิร์สไทย สมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย ที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ มหาวิทยาลัยศรีปทุม มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ D-VOTE และพันธมิตรผู้สนับสนุนอาสาสมัคร เพื่อรายงานผลคะแนนการเลือกตั้ง (อย่างไม่เป็นทางการ)

ทั้งนี้ กรดำเนินการจัดตั้ง "อาสาสมัครเลือกตั้ง" เป็นการผนึกกำลังเครือข่ายทุกภาคส่วนกว่า 50 องค์กร ยกระดับแอปพลิเคชันรายงานผลคะแนนเลือกตั้งทั่วไป ปี 2566 กับเทคโนโลยี Crowdfunding ระดมทุนเพื่อสนับสนุนอาสาสมัคร 100,000 คน 

รายงานผลคะแนนเลือกตั้งจากทุกหน่วยเลือกตั้ง 95,000 หน่วยแบบเรียลไทม์ เริ่มรายงานผลการนับคะแนนแต่ละหน่วยเลือกตั้งจากทุกเขต หลังปิดหีบเลือกตั้งประมาณ 17.15 น.เป็นต้นไป

สำหรับเป้าหมายในการทำงานอาสาสมัครเลือกตั้ง คือ ทำทุกวิถีทางให้ทราบแนวโน้มผลการนับคะแนนเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการในเบื้องต้นรอบแรกประมาณ 2 ชั่วโมง หลังปิดหีบเลือกตั้ง 17.00 น. ของวันที่ 14 พ.ค. 66 โดยคาดว่าในเวลาไม่เกิน 19.00 น. น่าจะทราบแนวโน้มสัดส่วนคะแนนแบบ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของแต่ละพรรค

และในเวลาไม่เกิน 21.00 น. น่าจะทราบแนวโน้มคะแนนเสียงของผู้สมัคร ส.ส.เขตที่มีคะแนนนำอันดับหนึ่งในทุกเขต 400 เขต 

ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกประกาศยกเลิกการใช้แอปพลิเคชั่นการรายงานผลคะแนนเลือกตั้ง (อย่างไม่เป็นทางการ) ไปใช้ระบบ ECT Report ที่ไม่ใช่แบบเรียลไทม์ ซึ่งจะเริ่มทราบผลการเลือกตั้งประมาณ 23.00 น.

ส่งผลทำให้สื่อที่จะต้องรายงานผลการเลือกตั้งอย่างรวดเร็วและถูกต้อง เพื่อช่วยให้การเลือกตั้งเกิดความโปร่งใสตรวจสอบได้ ได้รับเสียงเรียกร้องจากภาคส่วนต่าง ๆ ของสังคมให้ช่วยกันหาทางออก ร่วมมือกันสร้างระบบการรายงานผลการนับคะแนนเลือกตั้งจากหน้าคูหาเลือกตั้ง อย่างรวดเร็วแบบเรียลไทม์เช่นเดิม

การกำเนิด "อาสาสมัครเลือกตั้ง" ก่อให้เกิดการพัฒนาอีกระดับของแอปพลิเคชั่นรายงานผลคะแนนเลือกตั้งแบบ Realtime และ Final Score ที่เคยนำมาทดสอบการใช้ในการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2565 มาแล้ว

ทีมงานเทคโนโลยีได้พัฒนาระบบเชื่อมต่อเครือข่ายอาสาสมัครจากหลายองค์กรให้สามารถใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ร่วมกันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการมอบหมายหน้าที่อาสาสมัครในวันเลือกตั้ง ระหว่างการรายงานผลคะแนนแบบ Realtime และ Final Score 

รวมทั้งการถ่ายภาพกระดานนับคะแนนและใบรับรองผลการนับคะแนน ส.ส. 5/18 ในแต่ละหน่วย เพื่อส่งเข้ามาเก็บไว้ในระบบ Cloud และ Blockchain ให้สามารถตรวจสอบในภายหลังได้

นอกจากนี้ คณะทำงานของสมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (ประเทศไทย) และสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ ยังได้ออกแบบระบบการรับสมัครอาสาสมัครและระบบการบริหารอาสาสมัครร่วมกันกับเครือข่ายต่าง ๆ เชื่อมโยงกับแพลตฟอร์มการระดมทุนแบบ Crowdfunding และ Crowdsourcing ที่ออกแบบโดย D-Vote

ภายใต้การทำงานร่วมกับ สมาคมฟินเทคประเทศไทย และสมาคมเมตาเวิร์สไทยโดยหลักการการเปิดรับสมัครอาสาสมัครของแต่ละเครือข่ายและองค์กรยังเป็นอิสระต่อกัน เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการประชาสัมพันธ์ไปตามภารกิจของแต่เครือข่ายแต่ละองค์กรจะเห็นสมควร การระดมทุน Crowdfunding

ตั้งเป้าหมายเงินบริจาคจากผู้ต้องการสนับสนุนการเลือกตั้งและส่งเสริมประชาธิปไตยไว้ประมาณ 12 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาระบบรายงานผลคะแนนเรียลไทม์และระบบบริหารอาสาสมัครที่มีขนาดใหญ่มาก

ส่วน Crowdsourcing จะอยู่ในรูปแบบสิ่งของกับบริการต่าง ๆ ที่ได้จากผู้สนับสนุน เพื่อใช้เป็นการตอบแทนหรือ Reward ให้รางวัลกับผู้บริจาคและอาสาสมัครในการรายงานผลคะแนนที่ตั้งเป้าหมายระดมอาสาสมัครไว้ 100,000 คน

โดยจะส่งมอบในรูปแบบของ NFT หรือ Token ให้กับผู้บริจาคเงิน ผู้สนับสนุน และอาสาสมัครตั้งแต่เริ่มบริจาค หรือลงทะเบียนสมัครเข้ามาเป็นอาสา เรียกว่าเป็น “ดิจิทัลคูปอง” เพื่อให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจได้ง่ายขึ้น ในการนำไปใช้แลกสินค้า หรือบริการส่วนลดที่ผู้สนับสนุนแจ้งความจำนงเข้ามา ในระยะเวลาดำเนินโครงการหรือภายหลังได้ปฏิบัติภารกิจรายงานผลคะแนนเลือกตั้งเสร็จแล้ว

การบริหารอาสาสมัครได้ออกแบบไว้ 3 ระดับเพื่อให้การายงานผลคะแนนเลือกตั้งเป็นไปอย่างครอบคลุมทุกหน่วยเลือกตั้ง และส่งคะแนนเข้าระบบประมวลผลในศูนย์ปฏิบัติการวันเลือกตั้งได้อย่างถูกต้องมากที่สุด 

ระดับที่ 1 อาสาสมัครประจำหน่วยเลือกตั้ง 400 เขตที่มีหน่วยเลือกตั้งรวมประมาณ 95,000 หน่วย ที่ตั้งเป้าจะมีอาสาสมัครประมาณ 100,000 คนประจำทุกหน่วยเลือกตั้ง

อาสาสมัครหลักในระดับหน่วยเลือกตั้งในทุก ๆ คูหาจะมาจาก สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดประเทศไทย, สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย และสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย ที่กระจายกันทุกจังหวัด, ทุกเทศกาลและทุกตำบลที่มีหน่วยเลือกตั้งในระดับหมู่บ้านมากกว่า 80,000-90,000 หมู่บ้าน

นอกจากนี้ ยังได้รับความร่วมมือจากพรรคการเมืองหลายพรรคที่ตอบรับเข้าร่วมโครงการรายงานผลคะแนนเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ทั้งนี้เพราะพรรคการเมืองทุกพรรคมีอาสาสมัครของพรรค ประจำอยู่ในทุกหน่วยเลือกตั้งอยู่แล้ว

อาสาสมัครอิสระภาคประชาชนจากภาคีเครือข่ายที่ร่วมกันคือ iLaw, Vote62, WeWatch ฯลฯ และอาสาสมัครอิสระภาคประชาชนที่เป็นผู้สนใจจะมีส่วนร่วมทางการเมืองทำงานอาสาสมัครโครงการนี้ ที่สามารถสมัครโดยตรงกับภาคีเครือข่าย และผ่านช่องทางสื่อต่าง ๆ ได้ เพื่อให้แต่ละเขตเลือกตั้งที่มีหน่วยเลือกตั้งประมาณ 200-250 หน่วยเลือกตั้ง มีอาสาสมัครจากทุกภาคส่วนเข้าร่วมรายงานการนับคะแนนเลือกตั้งแต่ละเขตให้มากที่สุด ส่วนในพื้นที่เลือกตั้งกรุงเทพมหานคร 33 เขต

ทางกรุงเทพมหานครจะให้ความร่วมมืออำนวยความสะดวกในการรายงานคะแนนเลือกตั้งจากเจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานครประมาณ 6,500 คนที่ประจำอยู่ในทุกคูหาเลือกตั้ง เพื่อให้ได้ผลคะแนนเลือกตั้งอย่างรวดเร็วและถูกต้อง

นอกจากนี้ทาง มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์จะส่งอาสาสมัครประจำหน่วยเลือกตั้งในพื้นที่เขตเลือกตั้งใกล้มหาวิทยาลัยหาสถาบันการศึกษาในระดับอุดมศึกษาหรือมัธยมปลายทั่วประเทศ มีความสนใจจะร่วมสนับสนุนโครงการนี้ที่เป็นกิจกรรมส่งเสริมประชาธิปไตย

ด้วยการให้นักศึกษาและนักเรียนมัธยมปลายเข้าร่วมเป็นอาสาสมัครประจำหน่วยเลือกตั้ง ยังสามารถแจ้งความจำนงมาได้ทุกจังหวัด 

ระดับที่ 2 อาสาสมัครหัวหน้าเขตเลือกตั้ง 400 เขต และทีมงานที่จะมีการทำงานประสานงานกับสำนักงานกกต.เขตและ กกต. จังหวัดในการรับคะแนนที่เจ้าหน้าที่ กกต.เขตกรอกเข้าไปในระบบ ETC Report อาสาสมัครในระดับที่ 2 จะมีแนวทางการทำงานร่วมกับบุคลากรในระดับอุดมศึกษาทั่วประเทศ

เช่น มหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชนในพื้นที่ต่าง ๆ, มหาวิทยาลัยราชภัฏที่มีวิทยาเขตกระจายอยู่ทั่วประเทศ และเครือข่ายมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล โดยจะประชาสัมพันธ์ให้อาจารย์, เจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยและนักศึกษาของแต่ละสถาบัน เข้าร่วมโครงการ ในฐานะหัวหน้าเขตเพื่อบริหารอาสาสมัครใน 400 เขต 

ระดับที่ 3 อาสาสมัครศูนย์ปฏิบัติการวันเลือกตั้ง (Election Day War Room) โดยวอร์รูมจะทำหน้าที่ในการรวมศูนย์การส่งคะแนนจากอาสาสมัคร 400 เขตเข้ามาจากอาสาสมัคร 100,000 คน เพื่อกลั่นกรองและตรวจสอบคะแนนให้ถูกต้องมากที่สุดก่อนส่งเข้าระบบประมวลผลกลางของโครงการที่เชื่อมต่อไปยังสำนักข่าวต่าง ๆ ที่ร่วมโครงการประมาณ 34 สำนัก เพื่อเผยแพร่ออกทุกช่องทางของสื่อต่าง ๆ โดยกองบรรณาธิการแต่ละสื่อสามารถตัดสินใจอย่างอิสระในการเลือกนำเสนอผลคะแนนเลือกตั้งในแต่ละเขต

และแสดงผลคะแนนในรูปแบบกราฟิกต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นการแข่งขันในการนำเสนอให้น่าสนใจ ตามแนวทางหรือสไตล์ของแต่ละสำนักข่าวบนฐานข้อมูลคะแนนเดียวกันที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว

ศูนย์ปฏิบัติการวันเลือกตั้ง (Election Day War Room) จะอยู่ภายใต้การบริหารงานของมหาวิทยาลัยศรีปทุม โดยมหาวิทยาลัยศรีปทุมจะลงทุนติดตั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อย่างน้อย 100 เครื่องและอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในศูนย์ปฏิบัติการวันเลือกตั้งภายในมหาวิทยาลัยศรีปทุม