วันที่ 12 พ.ค. 2566 นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ กรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวบนเวทีปราศรัยใหญ่ส่งท้ายของพรรค ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ก่อนการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค.2566 ว่า การ #Save ประชาธิปัตย์ #Save ประชาธิปไตยไม่โกง คือการ #Saveประเทศไทย ให้พ้นจากการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งขณะนี้กำลังเดือดร้อน และได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ เรื่องค่าไฟฟ้าแพง
“อยู่ดีๆ ค่าไฟฟ้าแพงไม่ได้ สาเหตุที่แพงเพราะเกิดการทุจริตคอร์รัปชันจากบริษัทกลุ่มทุนผูกขาดใช้วิธีการฉ้อฉล เพื่อให้ได้สัมปทาน พรรคประชาธิปัตย์ได้พยายามขจัดนายทุนผูกขาดเหล่านี้ทั้งหลาย ที่หาประโยชน์ จากสัมปทาน
พรรคประชาธิปัตย์เราพูดเรื่องพลังงานไฟฟ้ามาโดยตลอด เราพูดอภิปรายเรื่องนี้ในสภา คนที่พูดเรื่องนี้เป็นประจำ ต่อสู้มาตลอดคือ นายเกียรติ สิทธีอมร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ
แต่เสียงเรามีไม่มากพอ พรรคประชาธิปัตย์ มีแค่ 52 เสียงในรัฐบาล ดังนั้น หากอยากให้ประชาธิปัตย์เข้าไปช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ ในการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค.2566 ต้องเลือกประชาธิปัตย์ให้มากกว่าเดิม
เราจะทำทันที 4 อย่าง หากได้เข้าไปในสภา ไม่ว่าจะได้เป็นหรือไม่เป็นรัฐบาล ประการแรกคือ ยกเลิกค่าเอฟที ประการที่ 2 ลดค่าไฟฟ้าทันที
ประการที่ 3 รื้อสัญญาไม่เป็นธรรมที่เกี่ยวกับไฟฟ้าทั้งหมด ให้ประโยชน์ตกเป็นของแผ่นดิน และประการสุดท้าย รื้อโครงสร้างพลังงาน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนทุกคน”