การเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม 2566 ตั้งแต่เปิดหีบเลือกตั้งในช่วงเช้าเวลา 8.00 น. สถานการณ์ยังคงปกติ ล่าสุด พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศลต. ตร.) เป็นประธานในการประชุม ศลต.ตร. ที่ห้องประชุมชั้น 20 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ช่วงเช้าเหตุการณ์เรียบร้อยดี
ทั้งนี้ที่ประชุมได้รับทราบรายงานสถานการณ์ความเรียบร้อยและการดูแลความปลอดภัยการเลือกตั้งตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาหลังจากเปิดหีบเลือกตั้งในเวลา 08.00 น. มีการรายงานจากทั่วประเทศว่าการเปิดหีบเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งการจราจรก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ ผอ.ศลต.ตร. ได้กำชับไว้หลายกรณี และให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยครั้งนี้ตำรวจทุกนายมีความตื่นตัว อีกทั้งทางผู้บังคับบัญชาก็จะมีการลงพื้นที่ออกตรวจพื้นที่ และกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด
พบการกระทำผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ
ทั้งนี้ภาพรวมการเลือกตั้งในขณะนี้ยังไม่มีปัญหาอุปสรรคอะไร ส่วนในพื้นที่ที่มีการแข่งขันสูง ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีการเน้นย้ำการปฏิบัติหน้าที่อยู่แล้ว และยังไม่มีปัญหาที่ส่งผลกระทบกับการเลือกตั้ง ส่วนเรื่องการกระทำความผิด ขณะนี้พบว่าเป็นการกระทำผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น การทำลายป้ายหาเสียง การขายสุรา เท่านั้น
พล.ต.ท.สราวุฒิ กล่าวว่า ส่วนข้อสั่งการพิเศษ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้จัดชุดเคลื่อนที่เร็ว ให้เตรียมความพร้อม อีกทั้งยังมีหน่วยเลือกตั้งประมาณ 15,751 หน่วย ที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแล ตามกฎหมาย ก็สามารถขอกับทางกระทรวงมหาดไทยได้ ซึ่งส่วนนี้เองก็จะมีเจ้าหน้าที่ชุดออกตรวจพิเศษ ในการกำกับดูแลความเรียบร้อยให้ทั่วถึง
ขณะเดียวกันยังมีรายงานข่าวจากทางตำรวจสันติบาล แจ้งว่า ขณะนี้ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ หรือ เหตุที่ควรเฝ้าระวังเป็นพิเศษในช่วงเลือกตั้ง โดยตอนนี้ตำรวจสันติบาล ประเมินว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
กำชับตำรวจทั่วประเทศจับซื้อเสียง-ขายเสียง
ก่อนหน้านี้พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการ ประจำสำนักงาน ผบ.ตร. ในฐานะโฆษก ศลต.ตร. ระบุว่า โค้งสุดท้ายการเลือกตั้ง ผบ.ตร.ได้กำชับตำรวจทั่วประเทศ ให้มีมาตรการสืบสวนหาข่าว ป้องกัน ปราบปรามห้ามมิให้มีการ ซื้อเสียง – ขายเสียงเด็ดขาด ซึ่งทั้งผู้ซื้อเสียง และขายเสียง มีโทษทางอาญาทั้งจำคุก ปรับ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งสูงสุด 20 ปี
โดยตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม ที่ผ่านมา สามารถจับกุมจับกุมดำเนินคดี ผู้กระทำผิดฐานซื้อเสียง ได้แล้ว 3 ราย ที่ จังหวัดบึงกาฬ จับกุมได้พร้อมของกลางโพยรายชื่อ และเงินสด อีกราย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จับได้พร้อมของกลางเงินสด และอีกรายที่ จังหวัดพิจิตร จับกุมได้พร้อมของกลางเงินสด เช่นกัน อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
“โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง ผบ.ตร. และ ผอ.ศลต.ตร. กำชับตำรวจทั่วประเทศบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด หากประชาชนพบเห็นการกระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้ง แจ้งได้ที่สายด่วน 191 หรือ 1599 หรือที่สถานีตำรวจนครบาล สถานีตำรวจภูธรทุกแห่ง"