ศึก "เลือกตั้ง66" เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลายคนคงทราบคะแนนที่อย่างไม่เป็นทางการ ที่นำโดย พรรคก้าวไกล และ พรรคเพื่อไทย ซึ่งเตรียมตัวจัดตั้งเป็นรัฐบาลร่วม 5 พรรค
หากเจาะลึกลงไป ในการชนะของทั้งสองพรรค มี 2 เขต ของจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ของ พรรคเพื่อไทย แต่แพ้การเลือกตั้งให้กับ "พรรคเพื่อไทรวมพลัง" ที่เป็นม้ามืดควบเข้าเส้นชัย แบบคะแนนทิ้งขาดจนไม่เห็นฝุ่น
ประวัติของพรรคเพื่อไทรวมพลัง (พทล.)
พรรคเพื่อไทรวมพลัง เป็นพรรคการเมืองไทยที่จดทะเบียนเป็นลำดับที่ 14/2564 โดยได้จนทะเบียนเมื่อวันจันทร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2564 มีนายวสวรรธน์ พวงพรศรี ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค และว่าที่ร้อยตรีวิชัย จิตพิทักษ์เลิศ เป็นเลขาธิการพรรคคนแรก
ขณะที่วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 นายวสวรรธน์ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งทำให้คณะกรรมการบริหารพรรคที่เหลือต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ ทำให้ทางพรรคเพื่อไทรวมพลังได้จัดประชุมใหญ่ในวันเดียวกัน เพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่
ทั้งนี้ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์เลือก นายวสวรรธน์ พวงพรศรี ให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคต่อไป ส่วนตำแหน่งเลขาธิการพรรคเป็นของนายวรเชษฐ เชิดชู พร้อมกันนี้ได้ทำการเปลี่ยนสำนักงานใหญ่ของพรรคเป็น 608 หมู่ 12 ตำบลไร่น้อย อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี เป็นที่ทำการพรรคในปัจจุบัน
สำหรับเขตเลือกตั้ง 2 เขตในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ที่ชนะการเลือกตั้ง ประกอบด้วย
เขตเลือกตั้งที่ 3
เขตเลือกตั้งที่ 10
ถือได้ว่าเป็นพรรคม้ามืดที่มาแรง แซงเจ้าของพื้นที่อย่าง พรรคเพื่อไทย และกระแสร้อนแรงอยาก พรรคก้าวไกลได้
นโยบายหาเสียงของ พรรคเพื่อไทรวมพลัง (พทล.)
ปลดหนี้ กำหนดให้กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เป็นเสมือน “โรงพยาบาลหนี้” ของเกษตรกรโดยวิธีการโอนหนี้ และหลักทรัพย์ค้ำประกันหนี้จากเจ้าหนี้ โอนไปอยู่ในโรงพยาบาลหนี้ทันทีและผ่อนชำระหนี้คืนโดยปลอดดอกเบี้ย
ด้านการศึกษา เรียนฟรี ถึงปริญญาตรี
มีงานทำ สร้างอาชีพในชุมชน ส่งเสริมธุรกิจ SME ธุรกิจออนไลน์
ลดความเหลื่อมล้ำ ปฏิรูปที่ทำกิน ยกเลิก สปก. กทบ.5 ที่ราชพัสดุที่หมดสภาพความเป็นป่าและมีประชาชนอาศัยอยู่โดยออกเป็นโฉนดทุกแปลง
สร้างนวัตกรรมเกษตรไทย ปฏิรูปภาคเกษตรโดยใช้นวัตกรรมนาโนเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มผลผลิต
ด้านสาธารณสุข ยกระดับ อสม. ให้เป็นผู้ช่วยแพทย์แผนไทยประจำหมู่บ้าน