"เฉลิมชัย"ลั่น!ไม่นั่งเลขา ปชป. จับตา 13 มิ.ย. เลือกหัวหน้าพรรค-กก.บห.

30 พ.ค. 2566 | 03:28 น.
อัปเดตล่าสุด :30 พ.ค. 2566 | 03:52 น.

"ฉลิมชัย"ย้ำชัดไม่ขอนั่งเก้าอี้แม่บ้านพรรคปชป. ส่วนตำแหน่งหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารชุดใหม่ รอผลประชุมใหญ่ 13 มิ.ย.นี้ ปัดดีลเพื่อไทยตั้งรัฐบาล หากก้าวไกลตั้งไม่สำเร็จ อย่าเชื่อข่าวลือ

30 พ.ค.2566 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะรักษาการเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงความคืบหน้าการเลือกหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ว่า ต้องรอให้ตั้งรัฐบาลชุดใหม่เสร็จก่อนหรือไม่ ว่า มีการกำหนดวันแล้วคือ 13 มิถุนายน 2566 ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายภายในระยะเวลา 60 วัน ตามข้อบังคับพรรค

ส่วนตนเองขอหยุด ไม่รับตำแหน่งเลขาธิการพรรค ในกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยกล่าวด้วยว่า หลังไม่เป็นเลขาธิการพรรค ก็ยังยินดีให้คำปรึกษา หากมีการมาปรึกษาเข้ามา แต่หากไม่มีใครมาปรึกษาก็จะอยู่บ้าน ตอนนี้ขอให้ขึ้นอยู่กับที่ประชุมใหญ่พรรคว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ว่าจะเลือกใคร จะเป็นคนรุ่นใหม่หรือไม่
 

ส่วนพรรคประชาธิปัตย์พร้อมร่วมมือกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ในกรณีที่พรรคก้าวไกลไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ นายเฉลิมชัย กล่าวว่า “ต้องเป็นมติของพรรค ผมก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งเท่านั้นหลังจากนี้”

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ส่วนที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์ไปคุยกับพรรคเพื่อไทย เพื่อจัดตั้งรัฐบาล นายเฉลิมชัย กล่าวว่า "ไม่หรอกครับอย่าไปเชื่อข่าวลือ"

เมื่อถามย้ำว่าแล้วข่าวจริงคืออะไร นายเฉลิมชัย ตอบว่า ข่าวจริงเดี๋ยวก็เจอ


 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับตำแหน่งหัวหน้าพรรค ปชป. ก่อนหน้านี้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์  ยืนยันว่า ไม่รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อีก ขณะนี้ในพรรคมีบุคคลที่เหมาะสมและมีศักยภาพหลายคน ต้องมีการคัดเลือก แล้วแต่ที่ประชุมใหญ่จะเลือก  จะเป็นใครก็ได้ ซึ่งบางทีมีการเสนอคนนอกพรรคเข้ามารับตำแหน่ง แต่โดยหลักการความจริงแล้ว คนที่จะเป็นหัวหน้าพรรคต้องพร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้านด้วย ไม่ใช่รอเป็นนายกรัฐมนตรี หรือเป็นรัฐบาลเพียงอย่างเดียว ถึงจะเข้ามา เมื่อถึงเวลาเป็นฝ่ายค้านแล้ว ไม่อยากเป็น 

“ต้องพร้อมที่จะเผชิญหน้า ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ต้องพร้อมที่จะมาทำหน้าที่ได้ ดังนั้นคนนอกที่จะเข้ามาก็ค่อนข้างยาก ซึ่งที่ผ่านมา ผมเคยชักชวนคนเก่งและมีศักยภาพหลายคนมาทำงาน แต่หลายคนปฏิเสธ เพราะติดธุรกิจ ไม่อยากเปิดเผยบัญชี  และเวลาไปตรวจสอบคนอื่น ก็เกรงจะกระทบกับธุรกิจ” 


นายชวน กล่าวถึงคุณสมบัติของหัวหน้าพรรคคนใหม่ว่า ตนไม่มีสิทธิที่จะไปกำหนดว่าหัวหน้าพรรคคนใหม่จะเป็นอย่างไร ต้องแล้วแต่ที่ประชุมใหญ่เลือก  ซึ่งส่วนตัวเห็นว่าจะเป็นใครก็ได้ แล้วแต่สมาชิก แต่คนที่จะเข้ามาทำงานการเมือง จะต้องมีความหนักแน่น และไม่หวั่นไหว โดยเฉพาะตอนนี้หลายคนรวมทั้งคนรุ่นใหม่เพิ่งเข้ามา แล้วไม่ได้รับการเลือกตั้ง  จะต้องให้กำลังใจ เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเข้ามาทำงานการเมือง