จากกรณีที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ออกมาประกาศว่า “ผมพร้อมสู้กับความพยายามคืนชีพ ITV เพื่อสกัดกั้นพวกเรา” โดยมีการเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ล่าสุดนายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการ หรือ กมธ. การพัฒนาการเมือง และการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา แถลงผลการประชุมกมธ. ว่า กมธ.เตรียมทำหนังสือถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ส่งคำร้องของประชาชนต่อคุณสมบัติการถือหุ้นสื่อมวลชนของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล ที่ส่อว่าขัดกับรัฐธรรมนูญ ไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้มีคำวินิจฉัยในประเด็นดังกล่าวให้เป็นข้อยุติและไม่ให้เกิดปัญหาที่จะมีผลกระทบตามมา เช่นการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีในที่ประชุมรัฐสภา ที่อาจทำให้มีความวุ่นวายตามมา หลังการลงมติของส.ว. ที่มีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับลงมติของส.ว.
นายเสรี กล่าวด้วยว่า คณะทำงานของกมธ. ตรวจสอบแล้วมีมูลอันเชื่อว่า นายพิธา ขาดคุณสมบัติที่จะลงสมัครเป็นส.ส. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) กรณีเป็นเจ้าของหุ้นหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ ทั้งนี้การส่งเรื่องดังกล่าวนั้น กกต. ต้องรับรองผลการเลือกตั้งและประกาศผลเลือกตั้ง ส.ส. โดยเร็ว เพื่อให้เป็นไปตามกระบวนการของรัฐธรรมนูญ เช่น มาตรา 100 ที่ระบุว่าสมาชิกภาพของส.ส. เร่ิมตั้งแต่วันเลือกตั้ง ซึ่งต้องผ่านการรับรองส.ส.
“คุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม กรณีถือหุ้นสื่อมวลชนนั้น ถูกกำหนดเป็นข้อห้ามของผู้ลงสมัคร ส.ส., ส.ส. ดังนั้น จึงมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันกับ การส่งชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคการเมือง แม้จะมีข่าวว่านายพิธา ขายหรือโอนหุ้นสื่อออกไปแล้วช่วงนี้ ก็ไม่มีผลทำให้ข้อเท็จจริงเปลี่ยนแปลงไป อีกทั้งการพิจารณาแคนดิเดตนายกฯ นั้นต้องพิจารณาคุณสมบัติตั้งแต่ต้น ไม่ใช่พิจารณาตอนที่รัฐสภาจะโหวต” นายเสรี กล่าว