นายวโรดม ปิฏกานนท์ กรรมการสภาหอการค้าประเทศไทย และอดีตประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ ให้มุมมอง กรณีการเมืองพลิกขั้ว พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแทนก้าวไกลว่า พรรคเพื่อไทยเป็นมือเศรษฐกิจ ภาพลักษณ์ของเพื่อไทยจะมีความชำนาญด้านการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ถ้าพลิกขั้ว แต่หมายความว่าเพื่อไทยกับก้าวไกลต้องไปด้วยกันได้ ก็จูงแขนกันไปข้างหน้า
แต่กรณีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เปลี่ยนจากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย จะดีถ้าสองพรรคไปด้วยกันได้ ไม่มีปัญหาเรื่องมวลชน ประชาชนก็แฮปปี้ เพราะประชาชนเลือก 2 พรรคนี้มาอยู่แล้ว ถ้าเขาไปด้วยกันได้ โดยไม่มีการไปเปลี่ยน ไปสลับกับอะไรจนวุ่นวายไปหมด
นายวโรดม มองว่าพรรคเพื่อไทย มีทีมงานด้านเศรษฐกิจดีๆหลายคน และทางพรรคก้าวไกลก็มีนโยบายดีๆบางอย่าง ถ้าไม่นับเรื่องที่เขากำลังผลักดันที่เป็นประเด็นร้อนอยู่ตอนนี้ เรื่องทั่วๆไป เป็นเรื่องที่น่าจะเป็นผลดีกับประเทศ กับความเชื่อมั่นของนักธุรกิจ
“พอมีข่าวว่าจะเปลี่ยนเป็นเพื่อไทย ดูหุ้นขึ้นเลย คือความรู้สึกของคนว่าโอเคหรือเปล่า ดูจากหุ้นได้เลย พอมีแววปุ๊ปหุ้นมันเริ่มขึ้น ในแง่ของนักธุรกิจมองว่าเป็นผลดี แต่ต้องจับคู่กันทั้งเพื่อไทยและก้าวไกล อย่าไปสลับ เดี๋ยวจะมีปัญหาเรื่องมวลชนออกมา แล้วจะกลายเป็น แทนที่ประเทศจะเดินหน้า กับมาติดเรื่องมวลชนออกมาบนท้องถนน มันไม่ดีแบบนั้น ขอให้จับมือกันให้ได้แล้วให้ตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุด และต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จะได้เดินหน้าต่อไป”
นายประเสริฐ จึงกิจรุ่งโรจน์ ประธานอาวุโสหอการค้าจังหวัดตาก กล่าวว่า ภาคเอกชนหอการค้าฯจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง และไม่ฝักไฝ่การเมืองฝ่ายใดๆทั้งสิ้น แต่ภาคเอกชนเองต้องมีการติดตามเพื่อนำมาประมวลสถานการณ์ในด้านของเศรษฐกิจการค้า ที่จะส่งผลกระทบในด้านต่างๆ ทั้งในส่วนดีและไม่ดีของสถานการณ์การเมืองในช่วงเวลานี้
สำหรับความคิดเห็นส่วนตัวนั้น อยากให้มีการจัดตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุด เพราะยิ่งช้าจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการลงุทนทางธุรกิจ และหากมีการจัดตั้งรัฐบาลได้ลงตัวโดยเร็ว จะส่งผลหรือมีผลอย่างยิ่งในการที่ผลักดันหรือขับเคลื่อนธุรกิจ เศรษฐกิจ ให้เดินต่อไปข้างหน้า ซึ่งตนเองมองว่าแกนนำทั้ง 2 พรรคนี้ ใครก็ได้ขึ้นมาเป็นผู้นำ และร่วมมือกันทำงานบริหารราชการประเทศ สร้างความมั่นใจให้นักธุรกิจ-นักลงทุน ทั้งในและต่างประเทศ โดยอยากให้จับมือกันร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ โดยเร็วที่สุด
นายประเสริฐ กล่าวว่า มุมมองส่วนตัว พรรคแกนนำที่กำลังมีการจัดตั้งรัฐบาลและการเลือกนายกรัฐมนตรีผู้นำประเทศไทยนั้น พรรคเพื่อไทยมีบุคคลหรือบุคลกากรที่มีประสบการณ์ในการทำงานมากมาย หลายท่าน ที่มีประสบการทั้งด้านเศรษฐกิจ-สังคม การเมือง รวมทั้งแกนนำหรือบุคคลในพรรคเพื่อไทย ได้ทราบบริบทในพื้นที่จังหวัดตากและพื้นที่ชายแดน ซึ่งจะทำให้การทำงานบริหารประเทศ เป็นไปในทิศทางที่ดีและเร็วขึ้น ประเทศชาติจะได้รับประโยชน์จากประสบการณ์นี้
สำหรับพรรคก้าวไกล ถือว่าบุคลากรหรือแกนนำในพรรคนี้ มีแนวคิดใหม่ๆ มีความคิดที่ก้าวหน้าในรูปแบบใหม่ๆ ตนเองอยากจะให้มีการนำความคิดใหม่ๆ มาปรับใช้ร่วมกับพรรคเพื่อไทย ที่สามารถนำการพัฒนา นำความรู้ ความสามารถ ของแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ทั้ง 2 พรรค มาร่วมกันพัฒนาบริหารประเทศ”