วันที่ 22 สิงหาคม 2566 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนการเข้าประชุมร่วมรัฐสภาวันนี้ว่า ความเห็นส่วนใหญ่เมื่อวานจากที่ประชุม สส. ของพรรค ก็คือจะงดออกเสียง มีบางท่านขอใช้เอกสิทธิ์ ซึ่งที่ประชุมก็ไม่ขัดข้อง ส่วนตนจะโหวตตามมติพรรค เสียงส่วนใหญ่ ก็คืองดออกเสียง
ส่วนที่ผู้สื่อข่าวถามถึงแนวทางการปฏิบัติในสภาต่อไปนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า ถ้าไม่เป็นรัฐบาลก็ต้องเป็นฝ่ายค้าน ในฐานะที่ตนรักษาการหัวหน้าพรรค ไม่เคยมอบหมายให้ใครไปเจรจาจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคไหน เพราะฉะนั้นเราก็ยืนชัดว่า เมื่อมีการตั้งรัฐบาลเสร็จสิ้น เราก็พร้อมที่จะไปทำหน้าที่ของเรา เมื่อเราไม่เป็นรัฐบาลเราก็พร้อมเป็นฝ่ายค้าน แล้วก็ต้องมีหน้าที่ในการตรวจสอบรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการแบ่งการทำงานกับพรรคก้าวไกลอย่างไร นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนยังตอบล่วงหน้าไม่ได้ เพียงแต่เราก็ทำหน้าที่ของเรา แล้วเราก็พร้อมที่จะยืนหยัดในสิ่งที่เป็นประโยชน์สูงสุดกับประเทศ และประชาชน ไม่ว่าเราจะมีหน้าที่อะไร ประชาธิปัตย์รัฐบาลก็เคยเป็น พรรคร่วมก็เคยเป็น แกนนำตั้งรัฐบาลก็เคยเป็น เป็นพรรคแกนนำฝ่ายค้านก็เคยเป็น เป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านก็เคยเป็น เพราะฉะนั้นเราทราบดี แล้วตระหนักดีในภารกิจที่ต้องทำหน้าที่แทนประชาชน ไม่ต้องกังวลเลย
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมี สส. ของพรรคโหวตสนับสนุนแคนดิเดต จะถือเป็นการขัดมติพรรคหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่เกิด และตนก็ไม่คิดว่าจะมี เพราะเมื่อวานก็พูดกันชัดเจน สำหรับมติพรรคคืองดออกเสียง ไม่ให้ความเห็นชอบ ก็ไม่ต่างกัน แปลว่าไม่ได้เห็นชอบ
นอกจากนี้นายจุรินทร์ ยังตอบผู้สื่อข่าวที่ถามความเห็นต่อกรณีที่นายทักษิณ เดินทางกลับประเทศไทยในวันนี้ว่า ตนเคยพูดเรื่องนี้มาก่อนหน้านี้แล้วว่า ไม่มีใครห้ามไม่ให้ท่านกลับมา แต่เมื่อกลับมาก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นหลักสำคัญของบ้านเมือง เพราะประเทศเราปกครองด้วยระบบนิติรัฐ
“กฎหมายต้องเป็นใหญ่ ทุกคนมีหน้าที่เคารพกฎหมาย ไม่ว่าเป็นฝ่ายไหน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือใครก็ตาม ต้องมีหน้าที่ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย ถ้ากฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์ บ้านเมืองก็ไปลำบาก เพราะฉะนั้นกฎหมายถือเป็นเรื่องสำคัญ การบังคับใช้กฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมาย เป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน และเท่าเทียมกัน ไม่มีข้อยกเว้น” นายจุรินทร์กล่าว