ย้อนรอย 72 วัน อวสาน MOU 8 พรรคร่วมรัฐบาลก้าวไกล
ฐานเศรษฐกิจรวบรวมรายละเอียดข้อมูลวันเวลา จากจุดเริ่มต้นของสัญญาใจ 8 พรรค ที่มีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ผ่านการทำข้อตกลงร่วม หรือ MOU ก่อนถึงฉากอวสานภายในระยะเวลา 72 วัน
ฉีกสัญญาใจไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับข้อตกลงร่วม (MOU) 8 พรรค ที่มีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ภายหลัง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงผลการประชุม 8 พรรคร่วม เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2566 โดยพรรคก้าวไกล ขอถอนตัวจากการร่วมมือกัน และให้พรรคเพื่อไทยเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคร่วมใหม่
ทั้งนี้ เพื่อไทย ยืนยันว่า จะเสนอชื่อ "เศรษฐา ทวีสิน" แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อโหวตเลือกนายกฯ ในวันที่ 4 สิงหาคม 2566 ตามขั้นตอนต่อไป
นับว่าเป็นการปิดฉาก MOU ของ 8 พรรคร่วมรัฐบาลก้าวไกลอย่างเป็นทางการ เพียงแค่เวลา 72 วัน นับตั้งแต่วันที่พรรคร่วมรัฐบาล 8 พรรค คือ พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคเพื่อไทรวมพลัง พรรคเป็นธรรม และพรรคพลังสังคมใหม่ ลงนามร่วมกันเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา
ฐานเศรษฐกิจ พาไปย้อนรอยเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองตั้งแต่ช่วงของการจับมือร่วมกันของทั้ง 8 พรรคลงนามสัญญาใจ เพื่อจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำในการจัดตั้ง โดยมีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี สรุปได้ดังนี้
22 พฤษภาคม 2566 แกนนำจาก 8 พรรคการเมืองลงนาม MOU จัดตั้งรัฐบาล
25 พฤษภาคม 2566 กกต.ประกาศผลการเลือกตั้งส.ส. 2566 อย่างเป็นทางการ พรรคก้าวไกล ได้ 151 คน ตามมาด้วย เพื่อไทย 141 คน
19 มิถุนายน 2566 กกต.ประกาศรับรอง สส. ครบ 500 คน
20-24 มิถุนายน 2566 สส. 500 คน ที่ได้รับการรับรองเดินทางมารับหนังสือจาก กกต.
20 มิถุนายน 2566 สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดให้ สส. มาการรายงานตัวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 วันแรก
3 กรกฎาคม 2566 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา
3 กรกฎาคม 2566 พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ตกลงร่วมกันเสนอชื่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ นั่งตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่วนตำแหน่งรองประธานสภาคนที่ 1 เป็นโควตาของพรรคก้าวไกล และรองประธานสภา คนที่ 2 เป็นโควตาพรรคเพื่อไทย
4 กรกฎาคม 2566 การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร เห็นชอบให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร
13 กรกฎาคม 2566 การประชุมร่วมรัฐสภา โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 โดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล วืดนั่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ของประเทศไทย หลังการประชุมร่วมรัฐสภา ลงมติไม่เห็นชอบ โดยมีคะแนนไม่ถึง 375 กึ่งของสมาชิกที่มี่อยู่ 749 เสียง
19 กรกฎาคม 2566 การประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 2 มีการเสนอชื่อพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี อีกครั้งหนึ่ง แต่ก่อนที่จะมีการลงมติ ศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีคำตัดสิน 7-2 เสียง ให้พิธาหยุดปฏิบัติหน้าทีและยังมีข้อถกเถียงว่าการเสนอชื่อพิธาอีกครั้งเป็นญัตติซ้ำหรือไม่ ผลปรากฏว่ารัฐสภามีมติเสียงข้างมากเห็นว่าเป็นญัตติซ้ำ ด้วยมติเห็นชอบ 395 เสียง ไม่เห็นชอบ 312 เสียง งดออกเสียง 8 เสียง ส่งผลให้ในสมัยประชุมนี้ไม่สามารถเสนอชื่อพิธาได้อีก
21 กรกฎาคม 2566 นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล แถลงเปิดโอกาสให้ พรรคเพื่อไทย เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลแทน โดยหลังจากนั้น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประกาศรับไม้ต่อพร้อมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หาเสียงสนับสนุน
22 กรกฎาคม 2566 พรรคเพื่อไทย เชิญพรรคการเมืองหารือที่พรรค เริ่มจากพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติพัฒนากล้า และ พรรครวมไทยสร้างชาติ
23 กรกฎาคม 2566 พรรคเพื่อไทย เชิญพรรคการเมืองหารือที่พรรคเพิ่มเติม เริ่มจากพรรคชาติไทยพัฒนา และ พรรคพลังประชารัฐ
25 กรกฎาคม 2566 แกนนำ 8 พรรคร่วมรัฐบาล นัดหารือถึงการจัดตั้งรัฐบาล แต่วงประชุมล่ม โดยพรรคเพื่อไทยขอแจ้งยกเลิก เนื่องจากการทำงานที่ได้รับมอบหมาย ยังไม่มีความคืบหน้า
2 สิงหาคม 2566 ประชุม 8 พรรคร่วมรัฐบาล โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงผลการหารือจัดตั้งรัฐบาล ยกเลิก MOU พรรคก้าวไกล ถอนตัวร่วมจัดตั้งรัฐบาล และเสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นแคนดิเดตนายกฯ
นับเป็นฉากอวสานของการจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรคร่วมฉบับพรรคก้าวไกลอย่างเป็นทางการ
