วันที่ 4 สิงหาคม 2566 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองและการเลื่อนคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ว่า ทุกคนทุกฝ่ายต้องเคารพในมติของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะตราบใดที่มติศาลยังไม่ชัดเจน และมีการดำเนินการสิ่งใดก่อน อาจจะไม่เหมาะสม ฉะนั้น จำเป็นต้องรอจนกว่าคำตัดสินของศาลจะออกมาแล้วค่อยหาแนวทางในการปฏิบัติต่อไป
ในส่วนของพรรคชาติพัฒนากล้าได้รับการติดต่อในการร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นายสุวัจน์ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ ( 3 ส.ค. 66) ได้มีการประสานมาในระดับหนึ่งว่าจะมีการแถลงข่าวในช่วงบ่ายๆ แต่เมื่อมีการเลื่อนการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญยังไม่มีคำวินิจฉัยในเรื่องนี้ จึงมีการเลื่อนการแถลงข่าวออกไป
หลังจากนี้คงต้องรอดูสถานการณ์ต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร ส่วนตัวมองว่าอาจจะล้าช้าไปบ้าง แต่กระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งต้องโปร่งใส ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ ตามข้อกำหนดทุกอย่าง เพราะถือว่าการได้มาซึ่งนายกรัฐมนตรี ก็จะได้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ด้วย ฉะนั้นจำเป็นจะต้องทำให้ถูกต้อง ถึงแม้จะล่าช้าไปบ้างแต่ตนเชื่อมั่นว่ากระบวกการต่างๆ ที่เกิดขึ้นจะทำให้ได้รัฐบาลมีเสถียรภาพ
นายสุวัจน์ กล่าวว่า ส่วนตัวเอาใจช่วยทุกฝ่ายอยากให้มีรัฐบาลโดยเร็วไม่อยากให้เป็นสุญญากาศทางการเมืองนาน เพราะขณะนี้ 3 เดือนกว่าแล้วที่ประเทศไทยยังไม่มีรัฐบาลที่ชัดเจน แต่ต้องเคารพกติกาของบ้านเมือง อาจจะช้าแต่ในที่สุดประเทศก็จะไปถึงจุดที่มีรัฐบาล
ส่วนพรรคเพื่อไทยจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ เรื่องนี้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน คงต้องรอดูกันต่อไปว่าการจัดตั้งรัฐบาลจะออกมารูปแบบไหน
ส่วนจะเกี่ยวข้องกับการกลับบ้านของอดีตนายกรัฐมนตรีไหม ตนเองมองว่าการกลับบ้านของอดีตนายกรัฐมนตรี เป็นอีกเรื่องหนึ่ง การจัดตั้งรัฐบาลก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพียงแต่ว่าเหตุการณ์ทุกอย่างอาจจะมาอยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน จึงอยู่ใความสนใจของพี่น้องประชาชน
“อยากเห็นประเทศมีนายกรัฐมนตรี มีคณะรัฐมนตรี มีรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ มาดูแลพี่น้องประชาชน จะทำให้เกิดความเชื่อมั่นจากทุกฝ่าย ซึ่งนักลงทุนทั้งในและนอกประเทศต่างจับตาเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลอย่างใกล้ชิด หากมีนายกรัฐมนตรี รัฐบาลที่ได้รับการยอมรับเร็วเท่าไรจะส่งผลดีต่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ เอาใจช่วยพรรเพื่อไทยให้จัดตั้งรัฐบาลได้โดยเร็ว” นายสุวัจน์ กล่าว