วันนี้ (9 ส.ค.66)นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยแกนนำ 6 พรรค ประกอบด้วย พรรคประชาชาติ พรรคเสรีรวมไทย พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคเพื่อไทยรวมพลัง พรรคพลังสังคมใหม่ พรรคท้องที่ไทย ร่วมกันแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาล โดยระบุว่า
วันนี้ พรรคเพื่อไทยได้รวบรวมเสียงเพิ่มเติม และได้รับการสนับสนุนจาก 6 พรรคการเมืองประกอบด้วย พรรคประชาชาติ พรรคเสรีรวมไทย พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคเพื่อไทยรวมพลัง พรรคพลังสังคมใหม่ พรรคท้องที่ไทย และรวมเสียงโหวตได้มากกว่ากึ่งหนึ่งแล้ว
ได้รวบรวมเสียงเพิ่มเติม และได้รับการสนับสนุนจาก 6 พรรคการเมืองประกอบด้วย พรรคประชาชาติ พรรคเสรีรวมไทย พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคเพื่อไทยรวมพลัง พรรคพลังสังคมใหม่ พรรคท้องที่ไทย และรวมเสียงโหวตได้มากกว่ากึ่งหนึ่งแล้ว
พรรคเพื่อไทยและทุกพรรคการเมืองคาดหวังอย่างยิ่งว่า จะสามารถคลี่คลายสถานการณ์ สลายขั้วการเมือง ทุกฝ่าย เดินหน้าขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากหลายพรรคการเมือง และเสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภา เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีและจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ สามารถบริหารประเทศ
และเร่งแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้โดยเร็ว ที่ขณะนี้กำลังเผชิญความเดือดร้อนรุนแรง การประวิงเวลาออกไปยิ่งทำให้เกิดความเสียหายยิ่งขึ้น การจัดตั้งรัฐบาลได้เร็วเท่าไรจะยิ่งแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วมากขึ้นเท่านั้น
เรายืนยันจะทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ โดยเฉพาะในสถานการณ์ทางการเมืองที่มีความพิเศษ ท่ามกลางวิกฤตรัฐธรรมนูญ วิกฤตเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องของประชาชน และวิกฤตความขัดแย้งในสังคม แบ่งฝักแบ่งฝ่าย แบ่งสีแบ่งขั้ว
การที่จะแก้วิกฤตครั้งนี้ได้ ต้องสลายขั้วการเมือง ดึงความร่วมมือจากทุกพรรคทุกฝ่าย ทุกกลุ่ม ทุกคน เพื่อร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทย และนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำ เพื่อนำรัฐธรรมนูญออกจากวิกฤต เพื่อนำประชาชนให้พ้นทุกข์ เพื่อสร้างความสามัคคี สมานฉันท์ โดยถือเป็น “วาระประเทศ” ที่สำคัญอย่างสูงสุด
เราอยากขอวิงวอน ให้พี่น้องประชาชนมั่นใจในพรรคเพื่อไทย และพรรคการเมืองที่ให้การสนับสนุนในครั้งนี้ เราจะช่วยกันฝ่าวิฤตเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ และประโยชน์สูงสุดแก่พี่น้องประชาชนทุกคน
เราหวังจะเห็นความสามัคคีของทุกฝ่ายในประเทศ
ขณะที่ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า ทางเพื่อชาติพัฒนากล้ามีความยินดี ตอบรับคำเชิญในการเข้าร่วมการจัดตั้งรัฐบาล ที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ ซึ่งการเข้าร่วมครั้งนี้มองว่าเป็นไปด้วยความชอบธรรม หลังพรรคอันดับหนึ่งไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ก็เป็นหน้าที่ของพรรคอันดับสองที่จะต้องจัดตั้งรัฐบาล
โดยทางพรรคเพื่อไทยได้ยืนยันทุกพรรคการเมือง ว่าการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้มีคะแนนเสียงเกินกว่ากึ่ง ที่จะจัดตั้งเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก และต้องไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไข มาตรา 112
รวมทั้งทางพรรคมีความมั่นใจในนโยบายการแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจของทางพรรคเพื่อไทย และที่ผ่านมาก็มีหลายนโยบายที่เกิดประโยชน์ต่อประเทศซึ่งกว่า 3 เดือนที่ผ่านมาหลังผ่านการเลือกตั้ง แต่ยังไม่มีการจัดตั้งรัฐบาล โดยอำนาจของรัฐบาลที่รักษาการ ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งการปล่อยให้มีสุญญากาศทางการเมืองจะไม่เป็นผลดีกับทุกฝ่าย
สำหรับการแถลงจับมือจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ของพรรคเพื่อไทยจะทำให้เสียงในการรัฐบาลรวมได้ 228 เสียง ดังนี้