หลังจาก "ไผ่ ลิกค์" ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยเมื่อ 10 ก.ค. 66 ว่า พรรคพลังประชารัฐ จะนำส.ส.ในพรรคทั้ง 40 คน ยกมือโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ของพรรคเพื่อไทย ในการจัดตั้งรัฐบาล
"พรรคพลังประชารัฐ จะไม่ขาดแม้แต่คนเดียว ถ้าจะมาเราจะมาทั้งพรรค เราเคยทำงานกับพรรคเพื่อไทยเราเชื่อมั่นว่าจะผ่านวิกฤติทางการเมืองและวิกฤติเศรษฐกิจไปได้” นี่คือคำยืนยันจากนายไผ่ ลิกค์
คำถามต่อมาที่สังคมกำลังรอบทสรุป หลังจากพรรค 1 ลุง คือ พลังประชารัฐ ที่มี ลุงป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรค ตัดสินใจแบบนี้
แล้วพรรคอีก 1 ลุง คือ รวมไทยสร้างชาติ ที่แม้ "ลุงตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" จะโบกมือลาพรรคไปจากฉากหน้า สุดท้ายจะตัดสินใจในเกมจัดตั้งรัฐบาลรอบนี้ที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำอย่างไร
ล่าสุด 11 ส.ค. 66 เริ่มมีท่าทีจากระดับแกนนำของรวมไทยสร้างชาติว่า สุดท้ายแล้ว จะจบดีลตั้งรัฐบาลกับเพื่อไทยหรือไม่
"อนุชา" ยอมรับคุยกับ "สมศักดิ์" จริง แต่สุดท้ายต้องรอกก.บห.เคาะ
นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และส.ส.ชัยนาท พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มสามมิตร ส.ส.พรรคเพื่อไทย เปิดประตูให้พรรครทสช.มาร่วมรัฐบาลด้วยกันทั้งพรรค ว่า
"เรื่องนี้เป็นเรื่องกรรมการบริหารพรรคที่จะพูดคุย ผมไม่ทราบอะไร เพราะไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค จะเกิดอะไรเป็นเรื่องกก.บห.และผมยินดีทำตามมติที่จะดำเนินการทางการเมืองต่อไป ทุกอย่างเป็นหน้าที่กก.บห.เชื่อว่าเร่งพิจารณาอยู่แล้ว"
ส่วนจะไปทั้งพรรคหรือไม่ หากได้เข้าร่วมรัฐบาล นายอนุชา ระบุว่า อยู่ที่กก.บห. ส่วนสมาชิกไม่มีปัญหา
นายอนุชา ยอมรับว่าได้พูดคุยกับนายสมศักดิ์ ถึงแนวทางการที่จะไปร่วมรัฐบาล แต่ไม่ได้พูดกันลึก เมื่ออยู่คนละพรรคการพูดคุยเกี่ยวกับกรอบการเมืองต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อให้การดำเนินการทางการเมืองเป็นไปอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีเรื่องอะไรเคลือบแคลงสงสัย
ส่วนที่พรรคพลังประชารัฐ เปิดตัวหนุนรัฐบาลเพื่อไทยไปแล้ว ถ้าพรรครทสช.รวมไทยสร้างชาติออกตัวช้า จะตกขบวนหรือไม่ นายอนุชา บอกว่า "ไม่เป็นไร ถือเป็นเรื่องที่ดีทุกอย่างถ้ามองเป็นเรื่องดีก็ดีหมด ถ้ามองลบก็ลบ และผมมองโลกในแง่บวก ไม่เคยตำหนิใคร ทุกอย่างต้องเดินหน้าไม่เช่นนั้นจะดึงกันไปมา ประเทศเดินไม่ได้ ถ้าเอาเรื่องเล็กน้อยมาเป็นประเด็น บ้านเมืองก็เดินไม่ได้ ตอนนี้ทุกอย่างไปเร็ว ถ้าเอาเรื่องเล็กน้อยมาพูดกันจะขัดขวางการดำเนินการทุกอย่าง ฉะนั้นจะทำอะไรก็ทำเลย จะสำเร็จหรือไม่เป็นอีกเรื่อง ถ้าสำเร็จก็เป็นผลดีกับประเทศชาติถ้าไม่สำเร็จประชาชนจะตัดสินใจ การเมืองควรอยู่ในบริบทที่เป็นบวกบ้าง ทั้งนี้ตกขบวนไม่เป็นไร เพราะถือว่าทำงานเป็นชิ้นเป็นอัน / พร้อมมั่นใจว่า ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม จะได้รัฐบาลชุดใหม่"
"ธนกร" ก็ยอมรับ "สมศักดิ์" คุยร่วมรัฐบาล ยันรทสช.ไม่มีงูเห่า ถ้าไปก็ไปทั้งพรรค
นายธนกร วังบุญคงชนะ ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ยอมรับเช่นเดียวกันว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้มาพูดคุยให้ไปร่วมรัฐบาล แม้จะอยู่คนละพรรค แต่ความสัมพันธ์ยังเหมือนเดิม ซึ่งมีกิจกรรมฟุตบอลที่ทำร่วมกันอยู่แล้ว เจอกันในสนามฟุตบอล และคุยกันเรื่องการเมือง ซึ่งเรื่องหมดเป็นไปตามที่นายสมศักดิ์ได้ให้สัมภาษณ์
"หากจะไป ก็ไปทั้งพรรค แต่ผมไม่ได้อยู่ในวงเจรจาของพรรค ผมก็ได้ส่งสัญญาณไปทางหัวหน้าเเละเลขาธิการพรรคแล้ว และยืนยันว่าไม่ทราบว่าพรรคเพื่อไทยประสานอย่างเป็นทางการแล้วหรือไม่ เพราะหัวหน้าพรรคไม่ได้บอก ซึ่งหากพรรคมีมติอย่างไร ก็พร้อมปฏิบัติตาม ทั้งนี้เชื่อว่าจากบริบทต่างๆเชื่อว่าการเมืองใกล้จบแล้ว อีกไม่นานก็จะได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่"
นายธนกร ปฏิเสธว่าการที่จะร่วมรัฐบาล ไม่มีเงื่อนไขว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ จะต้องได้เก้าอี้รัฐมนตรี ซึ่งไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้าน หรือรัฐบาล เชื่อวาา สส.ทั้ง 36 คนของพรรค ก็ทำหน้าที่ได้ดี และเชื่อว่าไม่มีการเจรจาต่อรองเก้าอี้
นายธนกร กล่าวว่าอีกว่า แม้ภายในพรรคจะมีความเห็นต่างกันบ้าง แต่เชื่อว่าคุยกันได้ ไม่มีงูเห่า งูจงอาง
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยประกาศสลายขั้วทางการเมืองเพื่อตั้งรัฐบาลพิเศษนั้น นายธนกร มองว่า ในเวลานี้ต้องเห็นใจพรรคเพื่อไทย เพราะมีข้อจำกัดหลายอย่าง แต่ส่วนตัวมองว่า ความขัดแย้งควรยุติลงได้แล้ว ไม่ว่าพรรคการเมืองใดควรร่วมมือกันบริหารประเทศ ตั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล นำสิ่งดีดีที่พลเอกประยุทธ์ได้วางรากฐานไว้มาต่อยอด และทำตามแนวทางที่พลเอกประยุทธ์ได้วางไว้ประเทศชาติจะเจริญ
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมองว่า พรรคก้าวไกล ต้องยอมรับในกระบวนการ ไม่ใช่ว่าเสียงข้างมากแล้วจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อจัดตั้งขึ้นรัฐบาบไม่ได้ พรรคอันดับสองก็ต้องขึ้นมาเป็นแกนนำ ตามกลไกตามรัฐธรรมนูญตามกติกาสากล และยังระบุอีกว่า บางพรรคก็เหมาะที่จะเป็นฝ่ายค้าน เพราะเก่งด้านการตรวจสอบ
"สมชัย" ขอแจม รอดู"รทสช."แก้เกม เพราะคงไม่อยากแค่ยืนมองร่วมกับก้าวไกล
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ระบุข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า รอดูรวมไทยสร้างชาติ จะแก้เกมอย่างไร ทั้ง รทสช. และ พปชร.ล้วนปรารถนาเป็นรัฐบาล แต่มีลีลาที่แตกต่างกัน
รทสช. ทอดสะพานหลายรอบ สินสอดทองหมั้นไม่ต้องยกมามาก แต่ พท. ยังไม่กล้าเชิญ กลัวบรรดา FC เจ้าบ่าวจะไม่พอใจ เพราะเคยมีเรื่องราวในอดีตบาดหมางใจกันไม่น้อย
พปชร. คิดว่าตัวเองหน้าตาสะสวย แถมมีทุนทรัพย์ในสภาสูงแถมมา อย่างไร พท. ก็ต้องมาสู่ขอ จึงเรียกค่าตัวเสียสูงลิ่ว เจ้าบ่าวเลยลังเล
เช้าวันพฤหัส เถ้าแก่นามสมศักดิ์ เข้าไปหาผู้ใหญ่ด้าน รทสช. เกือบจะปิดดีลได้ พปชร. จึงรีบออกหน้า ยกให้ฟรี ไม่มีสินสอด เกรงว่า เพื่อนจะตัดหน้าขึ้นขบวนรถไฟ
รถไฟวันนี้ เลยมีผู้โดยสาร 278 คน โดยมี รทสช. ยืนมองเพื่อนที่ชานชาลา เหมือนว่า บัตรโดยสารน่าจะใกล้เต็ม
รอดูว่าวันนี้ รทสช. จะแก้เกมอย่างไร เพราะคงไม่อยากแค่ยืนโบกมือตอนรถไฟออกร่วมกับก้าวไกล
เห็นว่า นายสถานี ส่งสัญญานขายตั๋วยืน แบบไม่ต้องมีที่นั่งกันแล้ว
ที่อาจช้ำใจ คือ บรรดาผู้โดยสารที่จองตั๋วกันมาแต่แรก แต่เงินน้อย ที่นั่งเดียว ถึงเวลา แค่เกาะบันไดรถไฟตาม