11 สิงหาคม 2566 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกคำแถลงพรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้รัฐบาลรักษาการ ยุติการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงทุกตำแหน่ง ที่จะมีผลต่อการผลักดันนโยบายของรัฐบาลใหม่ พร้อมขอให้ปลัดกระทรวงทุกกระทรวงชะลอการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ระดับสำคัญ เพื่อให้การทำงานร่วมกันกับรัฐบาลใหม่สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริงและสามารถแก้วิกฤตของประเทศ
นายภูมิธรรม ระบุว่า ในห้วงเวลานี้ เป็นระยะเปลี่ยนผ่านที่จะมีรัฐบาลใหม่ซึ่งเป็นตัวแทนประชาชนที่มาจากการเลือกตั้ง จะเข้ามาบริหารประเทศ
ข้อเสนอต่อรัฐบาลรักษาการ
รัฐธรรมนูญกำหนดให้รัฐบาลรักษาการมีอำนาจหน้าที่อันจำกัดเช่น ห้ามอนุมัติโครงการที่จะสร้างความผูกพันต่อรัฐบาลชุดต่อไป ห้ามแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ รวมถึง พนักงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ เพื่อรอให้รัฐบาลใหม่ที่มีอำนาจเต็มทั้งจากตัวบทกฎหมาย และอาณัติจากประชาชนเข้ามาบริหารตามแนวนโยบายที่ได้ประกาศไว้กับพี่น้องประชาชน
ดังนั้น รัฐบาลรักษาการควรรักษามารยาทตามธรรมเนียมปฏิบัติ และปฏิบัติตามข้อกำหนดของบทบาทหน้าที่ตามกฎหมาย ด้วยการยุติการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงทุกตำแหน่ง ที่จะมีผลต่อการผลักดันนโยบายของรัฐบาลใหม่
การกล่าวอ้างว่าจะมีข้าราชการระดับสูงเกษียณอายุราชการเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เนื่องจากยังไม่สิ้นปีงบประมาณ และกลไกระบบราชการยังสามารถดำเนินอยู่ได้
รัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะนำนโยบายของรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศตามที่เสนอไว้ต่อพี่น้องประชาชน เพราะถือเป็นสัญญาประชาคมที่จะต้องเข้ามาเร่งดำเนินการทันที ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มต้นเข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน และต้องอาศัยข้าราชการเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายให้ประสบผลสำเร็จ
ทั้งนี้เพราะปัญหาวิกฤตของประเทศมีสาระสำคัญเกี่ยวกับความจำเป็นในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ฟื้นฟูผู้ประกอบการธุรกิจทุกกลุ่ม และฟื้นฟูความกินดี อยู่ดีของพี่น้องประชาชน
ดังนั้นรัฐบาลใหม่จึงต้องมีกลไกที่สามารถขจัดอุปสรรค และเร่งทำตามนโยบายให้ลุล่วงโดยเร็วอย่างมีประสิทธิภาพ นั่นหมายถึงการมีข้าราชการอย่างเช่นระดับปลัดกระทรวงทุกกระทรวง ที่สามารถปฏิบัติงานในการตอบสนองการบริหารงานของรัฐบาลใหม่ เพื่อร่วมสร้างผลสำเร็จต่อทุกนโยบายของรัฐบาลใหมให้สามารถแก้วิกฤตของประเทศและประชาชนได้
สิ่งที่เรานำเสนอ ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ และความชอบธรรมของรัฐบาลใหม่ในการเข้ามาบริหารประเทศ และเป็นสิ่งที่รัฐบาลรักษาการไม่ควรกระทำอย่างยิ่งในช่วงรอยต่อที่รัฐบาลที่มีอำนาจเต็มจะเข้ามาบริหารประเทศ เพราะนอกจากจะผิดรัฐธรรมนูญแล้ว ยังผิดต่อธรรมเนียมปฏิบัติ และมารยาททางการเมืองที่สำคัญยิ่ง
ความคิดเห็นต่อการปฏิบัติหน้าที่ของปลัดกระทรวง ทุกกระทรวง
เนื่องจากท่านเป็นกลไกสำคัญในการตอบสนองการทำงานตามนโยบายของรัฐบาลใหม่ที่ได้รับความเห็นชอบจากสภา เพื่อให้การทำงานของรัฐบาลที่กำลังจะเข้ามาบริหารประเทศ สามารถบรรลุผลอย่างรวดเร็ว จึงจำเป็นที่ท่านควรจะต้องชะลอการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ระดับสำคัญ โดยรอรับนโยบายจากรัฐบาลใหม่ เพื่อให้การทำงานร่วมกันกับรัฐบาลใหม่สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริงและสามารถแก้วิกฤตของประเทศ ให้หลุดพ้นจากปัญหาต่างๆ ที่สั่งสมกันมาโดยเร็ว
โดยหวังว่าท่านจะร่วมกับรัฐบาลใหม่ขับเคลื่อนนโยบายเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ พัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนได้อย่างราบรื่น
มาร่วมกันสร้างประเทศไทย ให้ดีขึ้นกว่าเดิม
คำแถลงของพรรคเพื่อไทยครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา ได้หารือถึงกรณีการแต่งตั้งข้าราชการระดับสูงในตำแหน่งปลัดที่กำลังจะเกษียณอายุราชการ ซึ่งนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี รายงานต่อที่ประชุมครม.ว่า แนวทางการแต่งตั้งข้าราชการระดับสูง ในช่วงที่ยังเป็นรัฐบาลรักษาการ และยังไม่มี ครม.ชุดใหม่
โดยรัฐมนตรีเจ้าสังกัดของปลัดกระทรวงที่กำลังจะเกษียณอายุราชการในขณะนี้ สามารถเสนอแต่งตั้งปลัดกระทรวงคนใหม่เพื่อมาทำหน้าที่แทนปลัดกระทรวงที่เกษียณอายุเสนอเข้ามาให้ที่ประชุมครม. พิจารณาได้ แต่สามารถแต่งตั้งได้เฉพาะปลัดกระทรวงที่จะเกษียณเท่านั้น ไม่สามารถแต่งตั้งอธิบดีในกรมต่าง ๆ ที่จะเกษียณอายุราชการ ได้
ทั้งนี้รายชื่อปลัดกระทรวงผ่านการเห็นชอบจากครม.แล้ว ขั้นตอนต่อไปจะส่งต่อไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาให้เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 169 (2) ต่อไป
“ภูมิธรรม” ย้ำ แถลงการณ์เป็นการเสนอ เป็นธรรมเนียมปฏิบัติรอรัฐบาลใหม่สานงานต่อ
จากนั้น นายภูมิธรรม เวชยชัย ให้สัมภาษณ์ที่พรรคเพื่อไทย ถึงแถลงการณ์ของพรรคเพื่อไทยที่มีออกมาต่อรัฐบาลรักษาการว่า ตามกฎระเบียบและธรรมเนียมปฏิบัติ ได้เสนอไปใน 2 ส่วน เสนอให้รัฐบาลรักษาการเข้าใจกฎระเบียบข้อบังคับ ธรรมเนียมปฏิบัติ ที่กำลังจะมีรัฐบาลใหม่เกิดขึ้น
และส่วนที่ 2 เสนอไปยังปลัดกระทรวงทั้งหมดว่ารัฐบาลใหม่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นพรรคเพื่อไทยหรือพรรคการเมืองใด แต่คาดว่าจะใช้เวลาอีกไม่นาน อยากให้รอเวลา การจะอนุมัติ โครงการใหญ่ใหญ่ก็ควรใช้ความระมัดระวัง ไม่อนุมัติการใช้จ่ายต่างๆไปก่อน และชะลอการแต่งตั้งบุคลากร รัฐบาลใหม่ไง้ ซึ่งรัฐบาลใหม่ก็มีนโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภาที่ให้สัญญากับประชาชนไว้ ฉะนั้นจึงต้องมีกลไกและงบประมาณรองรับ