อภิปรายไม่ไว้วางใจ แพทองธาร ถูกพรรคร่วมรัฐบาลแทงข้างหลัง 

ศึกอภิปราย​ไม่ไว้วางใจ 2568 ที่ฝ่ายค้านพุ่งเป้าไปที่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นไปอย่างเข้มข้นตลอดทั้ง 2วัน ทั้งลีลาการซักฟอกของพรรคฝ่ายค้านโดยเฉพาะพรรคประชาชน และลีลาการตอบข้อกล่าวหาของรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรี 

รศ.ดร.ธนพร ศรียากูล ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบาย เปิดเบื้องหลังการซักฟอกครั้งนี้ ผ่านรายการ "เข้าเรื่อง" ทางยูทูปฐานเศรษฐกิจว่าพรรคร่วมรัฐบาลที่เกลือเป็นหนอน ปฏิบัติการแทงข้างหลัง ส่งข้อมูลให้พรรคฝ่ายค้านโดยพบร่องรอยในประเด็นซูเปอร์ดีล ของนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ และประเด็นที่ดินที่โรงแรมเทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ ที่อภิปรายโดย นายธีรัจชัย พันธุมาศ

“ต้องมีคนในรัฐบาลนั่นแหละส่งข้อมูลให้ และแน่นอนว่าก็ต้องเป็นคนในกระทรวงคมนาคมที่ไม่ได้อยู่ในขั้วเดียวกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมคนปัจจุบัน และพรรคเพื่อไทยแน่นอน ส่วนกรณีของที่ดินโรงแรมท่านนายกฯ ฟันธงได้เลยว่าสีน้ําเงินชี้เป้าแน่นอน เพราะว่าเรื่องนี้เป็นโฉนดแล้ว”  ดร.ธนพรกล่าว

สำหรับผลการลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาล ถึงอย่างไรฝ่ายค้านก็ไม่สามารถล้มรัฐบาลในสภาได้อยู่แล้ว แต่พรรคฝ่ายค้านหวังผลในการดิสเครดิตนายกฯ ชนิดที่ว่าหากส่งเป็นแคนดิเดตนายกฯก็จะไม่มีใครเลือกเพราะเป้าหมายสูงสุดเพื่อการเลือกตั้งในปี 2570 ที่พรรคประชาชนเชื่อว่าจะสามารถชนะการเลือกตั้ง และได้จัดตั้งรัฐบาล เป็นการเล็งผลระยะยาว

ดร.ธนพร กล่าวถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจเสร็จสิ้น คือการยื่นเรื่องต่อไปยังองค์กรอิสระ ซึ่งก็จะเป็นเหมือนเสี้ยนตำเท้า ที่ทำให้นายกฯไม่สามารถทำงานได้ง่าย เพราะปีนี้ก็จะเป็นช่วงของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรรมการ ป.ป.ช. จะเห็นได้ว่าขณะที่สภาผู้แทนราษฎรกำลังไล่ฟาดกันในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ฝั่งวุฒิสภาก็เดินหน้าสรรหากรรมการ ป.ป.ช.ต่อไป

“ซึ่งถ้านายใหญ่ยังจัดการให้ ส.ว. สีน้ำเงิน เปลี่ยนมาเป็น ส.ว. สีแดงไม่ได้ กรรมการ ป.ป.ช. ทั้ง 3 ท่านนี้ก็คงต้องเป็นคนที่มีรสนิยมท่องเที่ยวเมืองรอง และชอบดูมอเตอร์จีพีแน่นอน ฉะนั้นการที่นายน้อยจะต้องถูกฝ่ายค้านนำเรื่องไปขยายผลต่อในชั้น ป.ป.ช. และองค์กรอิสระอื่น ๆ ก็จะทำให้การทำงานของนายน้อย เหมือนมีเสี้ยนตำเท้าไปตลอด” ดร.ธนพรทิ้งท้าย