ทำความรู้จัก ภาษีการรับให้ ในศึกอภิปรายไม่ไว้วาง “แพทองธาร”

หลังนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในประเด็นมีพฤติกรรมหนีภาษี จากการโอนหุ้นให้กับคนในครอบครัวหลัง โปรดเกล้าฯ จำนวน 19 บริษัท มูลค่ากว่า 9 พันล้านบาท

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน

ส่วนการโอนหุ้นบริษัทที่ให้กับคุณแม่และพี่สาว รวม 393.5 ล้านบาทนั้น เป็นการโอนไปให้ด้วยวิธีการใด หากการโอนหุ้นให้กับแม่และพี่สาวเป็นการให้ แม่และพี่สาวในฐานะผู้รับต้องมีภาระในการจ่ายภาษีการรับให้ ให้กับรัฐด้วยหรือไม่

 ภาษีการรับ การให้ คืออะไร 

ภาษีการรับ การให้ หรือที่ทั่วไปเรียกว่า ภาษีการรับให้ เป็นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตัวหนึ่งที่จัดเก็บจากมูลค่าของทรัพย์สินที่ได้รับเฉพาะส่วนที่เกิน 10 ล้านบาทในปีภาษีเดียวกัน แต่จะขยายเพดานเพิ่มเป็นมูลค่าส่วนเกิน 20 ล้านบาทได้ถ้าผู้รับเป็นบุพการี ผู้สืบสันดาน หรือคู่สมรส 

ภาษีการรับการให้เป็นภาษีที่มาพร้อมกับ ภาษีมรดก เพื่อจัดเก็บภาษีจากการถ่ายโอนมรดก เมื่อเจ้าของมรดกเสียชีวิต รวมถึงการดักทางไม่ให้เลี่ยงภาษีมรดก โดยการเก็บภาษีการให้สำหรับการถ่ายโอนทรัพย์สินก่อนที่เจ้าของมรดกจะเสียชีวิตด้วย

อัตราภาษี

ภาษีการรับให้ เป็นภาษีที่ถูกจัดเก็บในกรณีที่เจ้าของทรัพย์สินโอนเงินหรือทรัพย์สินให้กับบุคคลอื่น ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ เป็นภาษีที่จัดเก็บเพื่อป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษีมรดก โดยอัตราจัดเก็บคงที่ 5% 

โดยผู้ให้และผู้รับจะต้องเสียภาษีในรูปแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เฉพาะมูลค่าสินทรัพย์ที่ได้รับในส่วนที่เกิน 10 ล้านบาทและ 20 ล้านบาท ตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดคือ

การยื่นภาษีรับให้

• ทรัพย์สินที่มีการรับให้ จัดเป็นเงินได้อื่นๆ (ประเภทที่ 8) ดังนั้น ผู้รับมีหน้าที่ต้องเสียภาษี สามารถยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.90) ได้ด้วยตนเอง ภายในกำหนดเวลา 31 มีนาคม หรือยื่นแบบออนไลน์ ได้ถึง 8 เมษายน ของทุกปี
• สามารถเลือกเสียภาษีในอัตรา 5 % ของมูลค่าทรัพย์สินส่วนที่เกินตามกฎหมายกำหนด หรือจะเลือกนำไปรวมคำนวณกับเงินได้อื่นๆ ก็ได้