สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น ดังกล่าว จะมีผลกับ นักเรียนต่างชาติที่ได้รับทุนจากรัฐบาลญี่ปุ่น เป็นกลุ่มแรก ก่อนที่จะขยายไปสู่ กลุ่มนักเรียนต่างชาติที่จ่ายค่าเล่าเรียนด้วยตัวเอง เป็นลำดับถัดไป
ทั้งนี้ นักเรียนต่างชาติส่วนใหญ่จะกลับญี่ปุ่นในช่วงฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วงซึ่งเป็นช่วงเปิดเทอม อย่างไรก็ดี นักเรียนต่างชาติจำนวนมากกลับญี่ปุ่นไม่ได้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิปีนี้ เนื่องจากรัฐบาลญี่ปุ่นประกาศมาตรการคุมเข้มการเดินทางเพื่อป้องกันการระบาดของโควิด-19 ด้วยการสั่งห้ามชาวต่างชาติจาก 146 ประเทศและดินแดน ซึ่งรวมถึงประเทศไทย ในการเดินทางเข้าญี่ปุ่น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ญี่ปุ่น-กัมพูชา เล็งปลดล็อกเดินทางระหว่างประเทศต้นก.ย.นี้
ญี่ปุ่นยังน่าเป็นห่วง ยอดผู้ติดเชื้อโควิดแนวโน้มพุ่ง
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าว NHK ของญี่ปุ่นรายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นมีแผนผ่อนคลายมาตรการห้ามไม่ให้ชาวต่างชาติที่ออกจากญี่ปุ่นกลับเข้าประเทศ ซึ่งเป็นมาตรการเข้มงวดที่กำลังใช้เพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เหตุผลก็เพื่อช่วยให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมกลับมาดำเนินได้อีกครั้ง ถึงแม้ยังมีข้อห้ามไม่ให้ชาวต่างชาติจาก 146 ประเทศและดินแดน เดินทางเข้าประเทศ ซึ่งรวมถึงผู้พำนักอาศัยถาวรและนักเรียนนักศึกษา แต่มีข้อยกเว้นในกรณีบุคคลที่ต้องการกลับเข้าประเทศญี่ปุ่นเพื่อเยี่ยมสมาชิกครอบครัวที่คลอดบุตร หรือร่วมพิธีศพของญาติ
นอกจากนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นยังมีแผนจะอนุญาตให้ชาวต่างชาติทั้งหมดที่มีสถานะการพำนักอาศัยในญี่ปุ่นเดินทางกลับเข้าประเทศได้ โดยมีเงื่อนไขว่าต้องรับการตรวจหาสารพันธุกรรมของไวรัสหรือ PCR และกักตัวในโรงแรมที่กำหนดเป็นเวลา 2 สัปดาห์ มาตรการเหล่านี้คล้ายกับที่กำลังใช้กับผู้เดินทางชาวญี่ปุ่น
สื่อญี่ปุ่นรายงานว่า ปัจจุบันชาวต่างชาติที่มีสถานะการพำนักในญี่ปุ่นมีจำนวนราว 2,600,000 คน
ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย
เมื่อวันที่ 31 ก.ค. ที่ผ่านมา นายสิงห์ทอง ลาภพิเศษพันธุ์ เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ได้เปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ได้ประกาศขยายระยะเวลาการบังคับใช้มาตรการการเข้าเมืองของชาวต่างชาติเพิ่มเติม จนถึงวันที่ 31 ส.ค.2563 และอาจมีการขยายเวลาออกไปอีก
สำหรับ มาตรการการเข้าเมือง ญี่ปุ่นยังคงปฏิเสธการเข้าเมืองของผู้ที่เดินทางมาจากประเทศและพื้นที่ต่าง ๆ รวม 146 ประเทศ/เขต รวมถึงประเทศไทย ผู้ที่เคยเดินทางไปประเทศและพื้นที่เหล่านี้ในช่วง 14 วันก่อนหน้าวันที่จะเดินทางเข้าญี่ปุ่น และผู้ที่เปลี่ยนเครื่องบิน หรือเครื่องบินจอดเติมน้ำมันที่ประเทศและพื้นที่เหล่านี้ก่อนเดินทางเข้าญี่ปุ่น
ชาวต่างชาติที่มีสถานะเป็นผู้มีถิ่นพำนักถาวร (Permanent Resident) คู่สมรสหรือบุตรของชาวญี่ปุ่น คู่สมรสหรือบุตรของชาวต่างชาติที่มีสถานะเป็นผู้มีถิ่นพำนักถาวร หรือผู้มีถิ่นพำนักระยะยาว จะได้รับการยกเว้น ให้สามารถเดินทางเข้าญี่ปุ่นจากประเทศและพื้นที่ต่าง ๆ 146 ประเทศ/เขตได้ รวมทั้งประเทศไทย โดยมีเงื่อนไข ดังนี้
1. จะต้องมีเอกสาร Re-Entry Permission (การได้รับอนุญาตให้กลับเข้ามาในญี่ปุ่นได้อีก) โดยสำหรับคนไทย จะต้องเป็น Re-Entry Permission ที่ทางการญี่ปุ่นออกให้ก่อนวันที่ 2 เม.ย.2563
2. ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 31 ส.ค.2563 ผู้ที่มี Re-Entry Permission จะสามารถเดินทางกลับเข้าญี่ปุ่นได้ ต่อเมื่อมีเหตุผลเป็นกรณีพิเศษเท่านั้น
3. ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.2563 เป็นต้นไป ผู้ที่มี Re-Entry Permission จะสามารถเดินทางกลับเข้าญี่ปุ่นได้โดยไม่ต้องมีเหตุผลเป็นกรณีพิเศษ แต่จะต้องแสดงเอกสารดังต่อไปนี้
มาตรการกักตัว ทุกคนที่เดินทางมาจาก 146 ประเทศ/เขต รวมทั้งประเทศไทย จะต้องถูกตรวจหาเชื้อ COVID-19 รวมทั้งต้องกักตัวในสถานที่ที่ทางการญี่ปุ่นกำหนดเป็นเวลา 14 วัน และไม่ใช้ระบบขนส่งสาธารณะ โดยมีผลบังคับใช้จนถึงสิ้นเดือน ส.ค.2563
มาตรการด้านวีซ่า ได้ยกเลิกวีซ่าที่สถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลใหญ่ของญี่ปุ่นในต่างประเทศได้ออกให้แก่ชาวต่างชาติในประเทศนั้นๆ ทั้งวีซ่าประเภทเดินทางเข้าครั้งเดียวและประเภทเข้าออกหลายครั้ง ในกรณีของคนไทย หมายถึงการยกเลิกวีซ่าที่สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ของญี่ปุ่นในประเทศไทยได้เคยออกให้ก่อนวันที่ 27 มี.ค.2563
นอกจากนี้ ยังระงับมาตรการยกเว้นวีซ่าเข้าญี่ปุ่น 15 วัน สำหรับคนไทยเป็นการชั่วคราว ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ถือหนังสือเดินทางไทย ยังไม่สามารถเข้าญี่ปุ่นได้ 15 วันโดยไม่ต้องขอวีซ่า โดยมาตรการนี้จะใช้จนถึงสิ้นเดือน ส.ค.2563 พร้อมทั้งระงับสิทธิการเข้าเมืองสำหรับผู้ถือ APEC Business Travel Card เป็นการชั่วคราว