ฟิลิปปินส์เร่งเจรจา 16 บริษัทวัคซีนโควิด เล็งร่วมมือทดลอง-ตั้งฐานผลิต
ฟิลิปปินส์ซึ่งกำลังเผชิญวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 และเป็นประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสะสมสูงที่สุดในอาเซียน กำลังเร่งเจรจากับบริษัทผู้ผลิตวัคซีนนานาชาติให้มาทำการทดลองทางคลินิกในเฟส 3 ที่ฟิลิปปินส์ หวังขยายความร่วมมือและขยับเป็นฐานการผลิตวัคซีน
นางมาเรีย โรซาริโอ เวอร์เจร์ รัฐมนตรีช่วยสาธารณสุขของฟิลิปปินส์ กล่าววานนี้ (31 ส.ค.) ว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์ กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจากับ บริษัทผู้ผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 จำนวน 16 ราย สำหรับการทดลองคลินิกในเฟส 3 ที่ฟิลิปปินส์
"เรากำลังหารือทวิภาคีกับผู้ผลิตวัคซีน และรัฐบาลจะเปิดเผยข้อมูลมากขึ้น เมื่อทุกอย่างได้ข้อสรุป" นางมาเรียกล่าว นอกจากนี้ ยังระบุว่า รัฐบาลได้จัดเตรียมโรงพยาบาลหลายแห่งสำหรับการทดลองคลินิกในเฟส 3
ก่อนหน้านี้ ในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโรดริโก ดูแตร์เต ผู้นำฟิลิปปินส์ เคยกล่าวให้สัมภาษณ์สื่อว่า ฟิลิปปินส์พร้อมรับข้อเสนอของ รัสเซีย ซึ่งเป็นประเทศแรกในโลกที่จดทะเบียนวัคซีนต้านโควิด-19 ว่า ฟิลิปปินส์ยินดีร่วมเป็นอาสาสมัครทดลองฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 โดยจะช่วยเหลือรัสเซียในการทดลองทางคลินิก และเป็นสถานที่สำหรับการผลิตวัคซีนด้วย
“เมื่อวัคซีนมาถึง ผมจะเป็นคนแรกที่จะรับการฉีดวัคซีนต่อหน้าประชาชน เชิญมาทดลองกับผมเป็นคนแรก” นายดูแตร์เตกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปธน.ฟิลิปปินส์อาสาฉีดวัคซีนต้านโควิดโชว์ประชาชน
"แพทย์-พยาบาล"ฟิลิปปินส์ แนะรัฐล็อกดาวน์เข้มรอบใหม่
รัสเซียเตรียมฉีด วัคซีนต้านโควิด-19 ให้ "หมอ-ครู" เป็นกลุ่มแรกต.ค.นี้
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีจำนวน 3,446 ราย ส่งผลให้ขณะนี้ฟิลิปปินส์มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมอยู่ที่ 220,819 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)
ขณะเดียวกัน สถิติของทางการเผยว่า ผู้เสียชีวิตรายใหม่จากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มีจำนวน 38 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในฟิลิปปินส์ขณะนี้ขยับขึ้นเป็น 3,558 ราย
อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดถึงยอดผู้เสียชีวิต อินโดนีเซีย ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงที่สุดในอาเซียน โดยมีจำนวน 7,417 ราย และมีผู้ติดเชื้อจำนวน 174,796 ราย
ด้านประธานาธิบดีโรดริโก ดูแตร์เต ผู้นำฟิลิปปินส์ ได้ประกาศขยายเวลาการใช้มาตรการล็อกดาวน์ในกรุงมะนิลาออกไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย.นี้ เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ กรุงมะนิลา ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศถือเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในฟิลิปปินส์ โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อในเขตเมืองหลวงคิดเป็นจำนวน 57% ของผู้ติดเชื้อทั้งประเทศ
ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ดังกล่าว ระบบขนส่งมวลชนในกรุงมะนิลาจะได้รับอนุญาตให้บริการอย่างจำกัด ขณะที่ประชาชนจะต้องสวมหน้ากากอนามัย และรักษาระยะห่างทางสังคมอย่างเคร่งครัด