นายบิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กซิตี้ ระบุในทวิตเตอร์ส่วนตัววานนี้ (18 พ.ย.)ว่า อัตราการตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นบวกเฉลี่ย 7 วันในขณะนี้แตะที่ระดับ 3% แล้ว ซึ่งหมายความว่า โรงเรียนรัฐบาลทุกแห่งในนิวยอร์กซิตี้จะต้องปิดการเรียนการสอน โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 19 พ.ย. นี้
"สุขภาพและความปลอดภัยเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่งสำหรับนักเรียน บุคลากร และครอบครัว" นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กซิตี้ ระบุในทวิตเตอร์ "เราต้องรับมือกับการแพร่ระบาดรอบสองของโรคโควิด-19"
โรงเรียนรัฐบาลทั้งหมดในนิวยอร์กซิตี้จะปิดการเรียนการสอน และให้เปลี่ยนไปเรียนทางออนไลน์แทน โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 19 พ.ย.เป็นต้นไปจนกว่าจะมีการประกาศอีกครั้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"ฟอซี" เตือนวิกฤตโควิดในสหรัฐลากยาวถึงปีหน้า
IMF คาดโควิดฉุดศก.สหรัฐปีนี้หดตัว 6.6%
"ทรัมป์"ยัน สหรัฐอเมริกาไม่มีล็อกดาวน์รอบ 2
ขณะเดียวกัน บัญชีทวิตเตอร์ของโรงเรียนรัฐบาลในนิวยอร์กซิตี้ โพสต์ข้อความยืนยันว่า ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 19 พ.ย. โรงเรียนรัฐบาลทั้งหมดในนิวยอร์กซิตี้จะปิดการเรียนการสอนที่โรงเรียนจนกว่าจะมีการประกาศอีกครั้ง โดยนักเรียนทั้งหมดที่เคยเรียนที่โรงเรียนจะเปลี่ยนไปเรียนทางไกล หรือการเรียนออนไลน์แทน
สื่อต่างประเทศรายงานว่า ระบบโรงเรียนรัฐบาลของนิวยอร์กซิตี้มีนักเรียนกว่า 1.1 ล้านคน และเป็นระบบโรงเรียนรัฐบาลที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา
นับจนถึงช่วงบ่ายวันอังคาร (17 พ.ย.) ตามเวลาสหรัฐ นครนิวยอร์กซิตี้เพียงแห่งเดียวมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มขึ้นแตะ 24,146 ราย และยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 285,275 ราย
ข้อมูลดังกล่าวมาจาก The City ซึ่งเป็นโครงการติดตามยอดผู้ติดเชื้อและยอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในนครนิวยอร์กซิตี้ โดยรวบรวมมาจากข้อมูลของกรมสุขภาพและสุขวิทยาจิตแห่งนิวยอร์กซิตี้, โครงการ The COVID Tracking Project และศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) แห่งมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์
ขณะเดียวกัน ข้อมูลล่าสุดจากศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) แห่งมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ รายงานว่า ณ เวลา 17.25 น.ของวันพุธ (18 พ.ย.) ตามเวลาสหรัฐ หรือ 05.25 น.ของวันพฤหัสบดีตามเวลาไทย จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐทั่วประเทศพุ่งขึ้นแตะระดับ 11.4 ล้านราย ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นแตะ 250,029 ราย
โดยมีรัฐนิวยอร์กเป็นรัฐที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในสหรัฐ ที่ 34,173 ราย ขณะที่รัฐเท็กซัสมีผู้เสียชีวิตรองเป็นอันดับสอง ที่ 20,147 ราย ตามมาด้วยรัฐแคลิฟอร์เนีย ฟลอริดา และนิวเจอร์ซีย์ ที่มีผู้เสียชีวิตในรัฐมากกว่า 16,000 ราย
ส่วนรัฐที่มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 9,000 ราย ประกอบด้วยรัฐอิลลินอยส์ แมสซาชูเซตส์ เพนซิลเวเนีย และจอร์เจีย
จนถึงขณะนี้ สหรัฐยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด-19 มากที่สุดในโลก หรือมากกว่า 18% ของจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด-19 ทั่วโลกรวมกัน
ข้อมูลจาก CSSE เผยว่า จำนวนผู้เสียชีวิตรายวันจากโควิด-19 ในสหรัฐเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (17 พ.ย.) อยู่ที่ 1,707 ราย ซึ่งเป็นสถิติผู้เสียชีวิตในวันเดียวสูงสุดนับตั้งแต่ที่มีการรายงานยอดผู้เสียชีวิตสูงสุดเมื่อวันที่ 4 พ.ค. เป็นต้นมา
ทั้งนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า แบบจำลองของสถาบันชี้วัดและประเมินสุขภาพ (IHME) ในสังกัดมหาวิทยาลัยวอชิงตันของสหรัฐ บ่งชี้ว่า ภายในวันที่ 1 มี.ค. ปีหน้า ( 2564) อาจมีชาวอเมริกันเสียชีวิตจากโควิด-19 จำนวนถึง 438,941 ราย