รัฐบาลท้องถิ่นของ ออสเตรเลีย ประกาศ มาตรการล็อกดาวน์ พื้นที่ในเขต เมืองเพิร์ธ เมืองหลวงของรัฐออสเตรเลียตะวันตก เป็นเวลา 5 วันเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา หลังมีการตรวจพบ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 1 คน มาตรการดังกล่าวจะส่งผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่ราว 2 ล้านคน
สื่อท้องถิ่นของออสเตรเลียรายงานว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1 คนดังกล่าวมีอาชีพเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองเพิร์ธ ซึ่งถูกใช้เป็นสถานที่กักตัวผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ทั้งนี้ หลังจากที่ผลตรวจชี้ว่าชายคนนี้ติดเชื้อโควิด-19 ได้มีการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังทำให้พบว่ามีผู้ที่เข้าข่ายเสี่ยงติดโควิด-19 จากชายผู้นี้จำนวน 66 คน
และจากการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มผู้ที่เข้าข่ายเสี่ยงติดโควิดสูงจำนวน 13 คน ผลตรวจออกมาแล้วเป็นลบ ขณะที่กลุ่มเสี่ยงสูงอีก 11 คนได้ถูกย้ายไปกักตัวที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่ถูกดัดแปลงเป็นสถานที่กักตัวชั่วคราวแล้ว
ที่ผ่านมา นับตั้งแต่ที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ “โควิด-19”ในออสเตรเลีย รัฐบาลออสเตรเลียประสบความสำเร็จด้วยดีกับการควบคุมและจำกัดพื้นที่การแพร่ระบาด ซึ่งเกิดจากการบังคับใช้มาตรการที่เฉียบขาด เช่นการตัดสินใจล็อกดาวน์พื้นที่เสี่ยง ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วประเทศขณะนี้อยู่ที่ราว ๆ 29,000 ราย และยอดผู้เสียชีวิต 909 ราย ส่วนโครงการฉีดวัคซีนต้านโควิดให้แก่ประชาชนนั้นกำลังจะเริ่มขึ้นในเดือนก.พ.นี้ ซึ่งจากการเปิดเผยของนายสก็อตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียนั้น พบว่าเป็นโครงการที่รัฐบาลออสเตรเลียทุ่มงบประมาณ 4,800 ล้านดอลลาร์เป็นอย่างน้อย
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลออสเตรเลียมีแผนจัดสรรงบ 3,350 ล้านดอลลาร์จัดซื้อวัคซีนต้านโควิด-19 เพิ่มเติมเพื่อให้เพียงพอสำหรับประชากร 26 ล้านคน แต่ขณะนี้นายกรัฐมนตรียอมรับว่าอาจจะต้องเพิ่มงบประมาณเพื่อการนี้ เนื่องจากเป็นโครงการที่รัฐบาลออสเตรเลียให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก ส่วนมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 นั้นเป็นมาตรการที่มีวงเงินสูงกว่า 190,000 ล้านดอลลาร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ยอดโควิด 2 ก.พ.64 ทั่วโลกผู้ป่วยเพิ่ม 3.66 แสนราย รวม 103.89 ล้านราย
แอฟริกาติดเชื้อโควิดทะลุ 3,500,000 ราย ตายกว่า 90,000 ราย