นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เปิดเผยวานนี้ (6 เม.ย.)ว่า ผู้ใหญ่ชาวอเมริกันทุกคนในสหรัฐ ซึ่งหมายถึงผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จะมี สิทธิ์ในการเข้ารับการฉีดวัคซีน ป้องกัน โรคโควิด-19 ภายในวันที่ 19 เม.ย.นี้ โดยเขาได้สั่งการให้แต่ละมลรัฐเร่งขยายสิทธิ์ในการฉีดวัคซีนดังกล่าว เร็วขึ้นกว่ากำหนดการเดิมในวันที่ 1 พ.ค.
อย่างไรก็ตาม สหรัฐยังไม่อนุญาตให้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี แม้ว่าจะอยู่ในระหว่างการทดสอบก็ตาม "เรายังคงอยู่ในการแข่งขันระหว่างความเป็นกับความตาย" ปธน.ไบเดนกล่าว เนื่องจากสหรัฐยังอยู่ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่ ดังนั้น สิ่งที่กำลังทำอยู่ในเวลานี้ จะเป็นตัวตัดสินว่า สหรัฐจะสามารถช่วยชีวิตหรือในทางกลับกัน จะสูญเสียประชาชน จำนวนมากน้อยเท่าใดในเดือนเม.ย., พ.ค. และ มิ.ย. ก่อนถึงวันที่ 4 ก.ค. ซึ่งเป็นวันชาติของสหรัฐอเมริกา
ผู้นำสหรัฐยังกล่าวต่อไปว่า มากกว่า 80% ของครูและเจ้าหน้าที่ในโรงเรียนทั่วประเทศสหรัฐ ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส (แต่ละคนต้องฉีดให้ครบ 2 โดส) พร้อมเสริมว่า ไวรัสโควิดสายพันธุ์ต่างๆ กำลังแพร่ระบาด ซึ่งทำให้ผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้โครงการฉีดวัคซีนต้องทำงานแข่งกับเวลา
"เรายังไม่ถึงเส้นชัย ยังมีสิ่งที่ต้องทำอีกมาก และเรายังอยู่ในการแข่งขันระหว่างความเป็นกับความตาย"ปธน.ไบเดนกล่าว
ด้านนางเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวระบุว่า การประกาศดังกล่าวของปธน.ไบเดน เป็นการยืนยันต่อสาธารณชนว่า "ทุกคนมีสิทธิ์เข้ารับการฉีดวัคซีนทั่วประเทศ" ซึ่งหมายความว่า ชาวอเมริกันไม่จำเป็นต้องตรวจสอบกับเว็บไซต์ของรัฐและในท้องถิ่นอีกต่อไปเพื่อดูว่าพวกเขามีคุณสมบัติเหมาะสมหรือไม่
ทั้งนี้ ปริมาณและประสิทธิภาพของวัคซีนเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งมีส่วนเร่งให้ประชาชนตัดสินใจมาเข้ารับการฉีดวัคซีนจำนวนมากขึ้นและเร็วขึ้น
นับตั้งแต่ที่ปธน.ไบเดน เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา มีประชาชนชาวอเมริกันได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิดไปแล้วจำนวนมากกว่า 150 ล้านโดส และถ้าหากว่า สหรัฐยังสามารถรักษาอัตราการฉีดวัคซีนได้ประมาณนี้ต่อไป ไบเดนก็น่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ว่า ต้องการให้ฉีดวัคซีนให้ได้ 200 ล้านโดสภายในวันที่ 30 เม.ย.นี้ ซึ่งจะเป็นวันที่เขาอยู่ในตำแหน่งเป็นเวลาครบ 100 วัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ยอดโควิด 6 เม.ย.64 ทั่วโลกผู้ป่วยเพิ่ม 4.58 แสนราย สะสม 132.39 ล้านราย
สิงคโปร์จะเป็นประเทศแรกของโลกที่เปิดรับนักท่องเที่ยวที่ถือพาสปอร์ตวัคซีน "IATA Travel Pass"
อินเดียเศร้า ยอดติดเชื้อโควิดรายวันทะยานทะลุ 1 แสนราย กลายเป็นแชมป์ติดเชื้อดุอันดับสอง รองจากสหรัฐ