สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ(สคต. / ทูตพาณิชย์) ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม รายงานโอยอ้างอิงข้อมูลสื่อของเวียดนามว่า กระทรวงการวางแผนและการลงทุนเผยในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2564 การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ(FDI)มีมูลค่า 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ(ประมาณ 4.34 แสนล้านบาท อัตราแลกเปลี่ยน 31 บาทต่อดอลลาร์) เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีโครงการจดทะเบียนใหม่ 613 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 8,830 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ(2.73 แสนล้านบาท)
ทั้งนี้การลงทุนมุ่งไปที่ 18 ภาคธุรกิจ นำโดยการผลิตและการแปรรูปและภาคพลังงานที่มีมูลค่าประมาณ 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และ 5,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามลำดับ สิงคโปร์เป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุด คิดเป็นร้อยละ 37.6 รองลงมาคือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน ฮ่องกง และไต้หวัน
ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2564 การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมีเงินทุนจดทะเบียนรวม 7,150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
กระทรวงฯ ระบุว่าภาคการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเกินดุลการค้า 14,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงเวลาดังกล่าว การส่งออกรวมน้ำมันดิบมีมูลค่าประมาณ 98,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นร้อยละ 75 ของมูลค่าการส่งออกของประเทศ
ในปี 2563 การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในเวียดนามมีมูลค่าประมาณ 28,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 25 เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้การเดินทางทางหยุดชะงักและทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลง
ทั้งนี้ สคต. ณ กรุงฮานอย ให้ความเห็นว่า แม้การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศในเวียดนาม แต่เวียดนามยังคงเป็นจุดหมายที่น่าสนใจในด้านการลงทุน เนื่องจากนโยบายการส่งเสริม การลงทุนต่าง ๆ รวมทั้งความตกลงการค้าเสรี(FTA) ที่เวียดนามลงนามกับประเทศต่าง ๆ ซึ่งจะเป็นโอกาสำหรับนักลงทุนไทยในการศึกษาตลาดและลงทุนในภาคการแปรรูปสินค้าเกษตรและ อุตสาหกรรมสนับสนุนในเวียดนาม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
“จุรินทร์”ถกทูตเวียดนาม แก้ปมเอดีน้ำตาล-นำเข้าหมูมีชีวิต
ยอดขายรถในเวียดนาม 4 เดือนพุ่ง 1.01 แสนคัน
โควิดป่วนหนัก เวียดนามสั่งปิดรวด 4 นิคมอุตสาหกรรม