เพราะหน่วยงานท้องถิ่นได้ออกมาขอความร่วมมือจากประชาชนให้ช่วยกันงดจุดพลุเพลิงหรือดอกไม้ไฟ เนื่องจากช่วงเวลานี้ หลายพื้นที่กำลังเผชิญกับ “คลื่นความร้อน” ที่ทำให้เมืองใหญ่หลายแห่งต้องพบกับอุณหภูมิความร้อนที่สูงมากเป็นประวัติการณ์ และสภาพอากาศที่แห้งแล้งดังกล่าวก็ทำให้ง่ายต่อการเกิดไฟป่า
ในอดีตที่ผ่านมา พบว่าในเหตุการณ์ไฟป่าครั้งใหญ่หลายครั้งในแถบเวสต์โคสต์นั้นเกิดจากการจุดพลุหรือดอกไม้ไฟ ยกตัวอย่างเช่นในปี ค.ศ. 2017 ในเขตอุทยานอีเกิล ครีก
นอกเมืองพอร์ทแลนด์ มีเด็กหนุ่มวัย 15 ปีจุดพลุ ซึ่งทำให้เกิดไฟป่าครั้งใหญ่ลุกลามเผาพื้นที่ป่า 50,000 เอเคอร์ หรือในปี 2020 งานปาร์ตี้แห่งหนึ่งที่มีการจุดดอกไม้ไฟ ทำให้เกิดไฟไหม้ป่า ซึ่งครั้งนั้นมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องสังเวยชีพขณะทำหน้าที่ 1 ราย
เมื่อพอร์ทแลนด์ มลรัฐโอเรกอน ทำลายสถิติอุณหภูมิร้อนที่สุดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (28 มิ.ย.) ที่ระดับ 116 องศาฟาเรนไฮท์ หรือประมาณ 46.6 องศาเซลเซียส ด้วยเหตุนี้ กองควบคุมอัคคีภัยของเมืองพอร์ทแลนด์ จึงได้ออกประกาศห้ามการจุดพลุและดอกไม้ไฟทุกชนิดแบบไม่มีกำหนดจนกว่าจะมีการประกาศแจ้ง
นอกจากนี้ ในเมืองข้างเคียงอย่างทูอาลาติน ได้ประกาศห้ามจุดพลุทุกชนิดไปจนถึงวันที่ 9 ก.ค.นี้
ซารา บูน ผ.อ. กองควบคุมอัคคีภัยของเมืองพอร์ทแลนด์ เปิดเผยว่า หากไม่ประกาศมาตรการเชิงรุกเช่นนี้ ผลที่ตามมาอาจเป็นความเสียหายใหญ่หลวง “การตัดสินใจเช่นนี้ในช่วงที่ประเทศกำลังเฉลิมฉลองวันชาติเป็นเรื่องยากมาก แต่ด้วยความรับผิดชอบและเพื่อปกป้องชีวิตของประชาชน ทรัพย์สิน และสิ่งแวดล้อม ก็จำเป็นต้องประกาศใช้มาตรการดังกล่าวแม้จะทำให้บางคนไม่พอใจก็ตาม”
หน้า 16-17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,694 วันที่ 8 - 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2564