สื่อต่างประเทศรายงานว่า กรุงโตเกียว ตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในรอบวัน สูงถึง 4,166 รายเมื่อวันพุธ (4 ส.ค.) ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วประเทศ พุ่งขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 966,907 ราย
นายยาซูโตชิ นิชิมูระ รัฐมนตรีเศรษฐกิจของญี่ปุ่นแจ้งต่อคณะผู้เชี่ยวชาญ หลังยื่นข้อเสนอเกี่ยวกับการประกาศภาวะฉุกเฉินรอบใหม่ให้รับทราบว่า ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องมากกว่าที่คาดไว้ และสถานการณ์การรองรับผู้ป่วยของโรงพยาบาล ก็อยู่ในขั้นวิกฤตมาก เนื่องจากยอดผู้ป่วยอาการหนักได้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ คณะผู้เชี่ยวชาญได้ลงนามในข้อเสนอให้ประกาศภาวะฉุกเฉินเพิ่มเติมดังกล่าว โดยสมาชิกบางคนในคณะฯ ได้ย้ำเตือนว่า สถานการณ์ขณะนี้เข้าขั้นรุนแรงมากพอที่จะต้องประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศแล้วด้วยซ้ำ
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศภาวะฉุกเฉินเต็มรูปแบบใน 6 จังหวัด รวมถึงกรุงโตเกียวที่กำลังเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเป็นสนามแข่งขันหลัก โดยภาวะฉุกเฉินนี้จะมีผลไปจนถึงวันที่ 31 ส.ค. นอกจากนี้ ยังมีการประกาศสถานการณ์ “กึ่งฉุกเฉิน” ใน 5 จังหวัด ถ้าหากมาตรการที่ออกมาล่าสุดนั้นเริ่มมีผลบังคับใช้ จะทำให้ชาวญี่ปุ่นกว่า 70% จะต้องอยู่ภายใต้ข้อจำกัดที่เคร่งครัดเพื่อควบคุมโรค
ทั้งนี้ สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากเกินคาด รวมถึงการพบผู้ติดเชื้อรายวันทำสถิติสูงสุดในกรุงโตเกียวนั้น ได้บดบังบรรยากาศการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก อีกทั้งยังสร้างความไม่มั่นใจให้กับประชาชนเกี่ยวกับความสามารถของนายโยชิฮิเดะ ซูงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ในการรับมือกับโรคระบาดดังกล่าว
ถึงแม้รัฐบาลญี่ปุ่นจะออกมาระบุว่า การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นสูงสุดก็ตาม แต่ผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่า การจัดการแข่งขันในขณะนี้เท่ากับเป็นการสื่อสารที่สร้างความสับสนให้กับประชาชนที่เหนื่อยหน่ายกับการต้องอยู่บ้านเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
คณะกรรมการจัดการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิกเปิดเผยเมื่อวานนี้ (5 ส.ค.)ว่า พบผู้ที่เกี่ยวข้องกับมหกรรมกีฬาระดับโลกนี้อีก 31 คนที่มีผลตรวจโควิดเป็นบวก ทำสถิติสูงสุดเป็นวันที่ 2 และส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อที่เกี่ยวข้องกับโอลิมปิกอยู่ที่ 353 รายนับตั้งแต่ต้นเดือนก.ค.เป็นต้นมา