การแข่งขันกีฬาโตเกียวพาราลิมปิก เปิดฉากขึ้นแล้วหลังมีพิธีเปิดเมื่อคืนวันอังคาร (24 ส.ค.) อย่างยิ่งใหญ่ตระการตา และหลังจากที่เลื่อนจากกำหนดการเดิมมาเป็นเวลาถึง 1 ปี ท่ามกลางกระแสความวิตกกังวลที่ว่า ทางผู้จัดจะสามารถจัดการแข่งขันได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ เนื่องจากในกรุงโตเกียวยังคงมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 อยู่
ทั้งนี้ นักกีฬา 4,403 คนจาก 161 ประเทศและเขตปกครอง รวมถึงนักกีฬาจากทีมผู้ลี้ภัย จะเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ ซึ่งเป็นจำนวนที่มากเป็นประวัติการณ์ โดยการแข่งขันจะมีไปจนถึงวันที่ 5 กันยายน 2564
คณะกรรมการพาราลิมปิกสากลระบุว่า เหตุการณ์นี้นับเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ แม้ว่าต้องเผชิญอุปสรรคจากวิกฤตการณ์ด้านสาธารณสุขในปัจจุบัน
ระหว่างพิธีเปิดการแข่งพาราลิมปิก ทีมอาสาสมัครได้รับหน้าที่ถือธงชาติของอัฟกานิสถานในฐานะ "สัญลักษณ์แห่งความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน" เนื่องจากนักกีฬาจากอัฟกานิสถานไม่สามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้หลังจากกลุ่มตาลีบันเข้ายึดกรุงคาบูลเมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า มีประชาชนรวมตัวกันประท้วงอยู่ภายนอกสนามกีฬาเพื่อเรียกร้องให้ผู้จัด ยกเลิกการแข่งขัน เช่นเดียวกับในพิธีเปิดการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิกเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขหลายรายยังได้ประกาศเตือนว่า ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในญี่ปุ่นได้เข้าสู่ขั้นวิกฤตแล้ว
ในวันเดียวกัน นายมาสะ ทากายะ โฆษกของคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ 2020 ได้เปิดเผยว่า มีนักกีฬาหนึ่งคนติดเชื้อโควิด-19 แต่ไม่ขอเปิดเผยชื่อ และได้ทำการตรวจสอบผู้ใกล้ชิดกับนักกีฬาเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ ส่วนตัวนักกีฬาที่ติดเชื้อได้เข้ารับการกักตัวและรักษาอาการแล้ว
“คณะกรรมการจัดการแข่งขันได้ประเมินไว้แล้ว ว่าจะมีผู้ติดเชื้อในหมู่บ้านแน่นอน เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในโอลิมปิกเกมส์ที่ผ่านมา ทำให้เตรียมวิธีการรับมือเอาไว้แล้ว เมื่อมีใครคนหนึ่งติดเชื้อ เราก็จะสืบหาคนใกล้ชิดต่อๆ ไปเพื่อตรวจหาเชื้อและหยุดการแพร่ระบาด ซึ่งก็เป็นมาตรฐานที่ทำกันโดยทั่วไป” นายทากายะกล่าว "คงบอกไม่ได้ว่าจะไม่มีความเสี่ยงเลย แต่จะทำให้มีความเสี่ยงน้อยที่สุด เพื่อให้เกมปลอดภัยมากที่สุด"
ก่อนหน้านี้ นายเซโกะ ฮาชิโมโตะ ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันพาราลิมปิก ได้แจ้งว่า มาตรการการป้องกันโควิด-19 ของนักกีฬาคนพิการ จะเข้มงวดกว่านักกีฬาในโอลิมปิก และได้แจ้งให้กับไอพีซีได้รับทราบแล้ว
สื่อท้องถิ่นยังรายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังเตรียมขยายภาวะฉุกเฉินซึ่งปัจจุบันบังคับใช้กับกรุงโตเกียวและพื้นที่อีก 12 เขต ให้มีผลครอบคลุมเพิ่มเติมอีก 8 จังหวัด เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่กำลังระบาดหนัก คำสั่งดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้กับจังหวัดฮอกไกโด ,มิยากิ, กิฟุ ,ไอจิ , มิเอะ, ชิกะ ,โอกายามะ และฮิโรชิมะ เริ่มตั้งแต่วันศุกร์นี้ (27 ส.ค.) ไปจนถึง 12 ก.ย. คาดว่าจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการในวันนี้
ภายใต้ภาวะฉุกเฉินนั้น ร้านอาหารจะงดเสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดให้บริการคาราโอเกะ และต้องปิดร้านก่อน 20.00 น. ส่วนห้างสรรพสินค้าจะต้องจำกัดจำนวนลูกค้าที่เข้าใช้บริการ