สำนักข่าวเอพีรายงานว่า กองทัพสหรัฐ ได้เปิดฉาก โจมตีทางอากาศ ต่อสมาชิกของ กลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลาม ISIS-K ใน อัฟกานิสถาน เมื่อวานนี้ (28 ส.ค.) ซึ่งปฏิบัติการดังกล่าวเกิดขึ้นภายในเวลาไม่ถึง 48 ชั่วโมงหลังจากที่กลุ่ม ISIS-K อ้างว่าได้ก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่สนามบินในกรุงคาบูลเมื่อวันพฤหัสฯ (26 ส.ค.) ซึ่งส่งผลให้ชาวอัฟกัน 169 คน และทหารอเมริกัน 13 นายเสียชีวิต
กองบัญชาการกลางของสหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐได้ส่ง อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ไปทิ้งระเบิดโจมตีที่มั่นของสมาชิกกลุ่ม ISIS-K ในเมืองนันกาฮาร์ โดยการโจมตีของสหรัฐในครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ขณะที่นายวิลเลียม เออร์บัน โฆษกกองทัพสหรัฐระบุว่า ไม่มีพลเรือนบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการโจมตีครั้งนี้แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ภายหลังมีรายงานอัพเดทข้อมูลพบว่า โดรนทิ้งระเบิดของสหรัฐทำให้สมาชิกระดับสูงของ ISIS-K เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 1 ราย และนี่คือการตอบโต้ครั้งแรกของกองกำลังสหรัฐในอัฟกานิสถานหลังเกิดเหตุวางระเบิดสนามบินกรุงคาบูล
ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนว่าผู้เสียชีวิตจากปฏิบัติการดังกล่าว มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุระเบิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (26 ส.ค.) ที่สนามบินในกรุงคาบูลหรือไม่ ซึ่งในวันนั้นยังคงมีชาวอัฟกันจำนวนมากเดินทางไปยังสนามบินเพื่ออพยพออกนอกประเทศอย่างต่อเนื่อง หลังจากกลุ่มตาลีบันเข้ายึดครองอัฟกานิสถานได้อย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ การโจมตีทางอากาศของสหรัฐ เป็นไปตามคำปฏิญาณที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้ให้ไว้เมื่อวันพฤหัสฯ หลังรับทราบเกี่ยวกับการวางระเบิดที่สนามบินฮามิด คาร์ไซในกรุงคาบูล เขาประกาศชัดว่า ผู้ก่อการร้ายจะไม่มีที่หลบซ่อนตัว "เราจะตามไล่ล่าและจะเอาคืนพวกเขาอย่างสาสม"