พายุเฮอริเคนไอดา (Ida) ถือเป็นพายุเฮอริเคนลูกที่ 4 ของปีนี้ที่พัดขึ้นชายฝั่งสหรัฐ ตรวจพบว่ามีความรุนแรงระดับ 4 (Category 4) ซึ่งอาจมีความรุนแรงมากกว่าพายุเฮอริเคน “ลอรา” (Laura) ที่พัดถล่มพื้นที่บริเวณภาคใต้ของสหรัฐอเมริกา เมื่อเดือน ส.ค.2563 สื่อต่างประเทศรายงานว่า การพัดขึ้นฝั่งรัฐหลุยเซียนาของพายุไอดาวานนี้ (29 ส.ค.) ทำให้เกิดฝนตกหนักและลมแรง กระทั่งขณะนี้ไฟฟ้าดับและมีครัวเรือนได้รับผลกระทบ ไม่มีไฟฟ้าใช้เป็นวงกว้าง
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานเบื้องต้นว่าครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบและไม่มีไฟฟ้าใช้มีจำนวนกว่า 6.2 แสนครัวเรือน แต่ต่อมาในเวลาไม่นานก็เพิ่มจำนวนเป็น 7.42 แสนครัวเรือน ขณะที่ปริมาณน้ำในเขื่อนเริ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ
สำนักงานนิรภัยและการบังคับใช้สิ่งแวดล้อมของรัฐบาลกลางสหรัฐ (Bureau of Safety and Environmental Enforcement - BSEE) เปิดเผยว่า ณ วันอาทิตย์ที่ผ่านมา (29 ส.ค.) ความรุนแรงของพายุที่พัดเข้าชายฝั่งอ่าวเม็กซิโก ทำให้บริษัทพลังงานระงับการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกแล้ว ในปริมาณ 1.74 ล้านบาร์เรล/วัน
นอกจากนี้ พายุเฮอริเคนไอดากำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้พอร์ตโฟร์ชอนในรัฐหลุยเซียนา ซึ่งเป็นที่ตั้งของท่าส่งน้ำมันนอกชายฝั่งหลุยเซียนา หรือ LOOP ข้อมูลจนถึงเมื่อวานนี้ (29 ส.ค.) ชี้ว่า บริษัทน้ำมันหลายแห่ง ซึ่งรวมถึงบีพี, เชฟรอน, อีควินอร์ และรอยัล ดัตช์ เชลล์ ได้พากันอพยพพนักงานออกจากแท่นขุดเจาะน้ำมันจำนวน 288 แท่น ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันทั้งหมดในอ่าวเม็กซิโก
สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ราคาน้ำมันซื้อขายล่วงหน้า WTI ขยับสูงขึ้นจ่อแตะ 70 ดอลลาร์ช่วงเช้าวันนี้ (30 ส.ค.) เนื่องจากความคาดหมายปริมาณผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกที่ปรับลดลง
ณ เวลา 07.05 น.วันนี้ (30 ส.ค.) ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 63 เซนต์ หรือ 0.92% แตะที่ 69.37 ดอลลาร์/บาร์เรล จากข้อมูลของสำนักงานนิรภัยและการบังคับใช้สิ่งแวดล้อมของรัฐบาลกลางสหรัฐ ที่ระบุว่า ณ วันอาทิตย์ (29 ส.ค.) บริษัทพลังงานได้ระงับการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกไปแล้ว คิดเป็นน้ำมันในปริมาณ 1.74 ล้านบาร์เรล/วัน
สื่อต่างประเทศระบุว่า ในช่วงเวลานี้ของทุกปี สหรัฐจะเผชิญกับฤดูกาลของพายุเฮอริเคน และเดือนส.ค.นี้ ก็เป็นวาระรำลึกครบรอบ 16 ปีของการเกิดเหตุการณ์เฮอริเคนแคทรินา (Katrina) พัดถล่มสหรัฐซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้น (ปี 2548) เกิดน้ำท่วมใหญ่มีผู้เสียชีวิตในสหรัฐมากกว่า 1,800 คน
นายจอห์น เบลส์ เอ็ดเวิร์ดส์ ผู้ว่าการรัฐหลุยเซียนา กล่าวกับสำนักข่าวเอพีว่า พายุเฮอริเคนไอดาแตกต่างจากพายุทั่วไป เนื่องจากมีความรุนแรงมากกว่า และเชื่อว่าจะสร้างความเสียหายอย่างมากให้กับบริเวณที่พายุพาดผ่าน อย่างไรก็ตาม ทางรัฐได้รับงบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาลกลางโดยคำสั่งของประธานาธิบดีโจ ไบเดนแล้ว เพื่อรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน การบรรเทาทุกข์ และการซ่อมบำรุงความเสียหายที่เกิดขึ้น ในเบื้องต้นเมืองนิวออร์ลีนส์ มีการสั่งอพยพประชาชนนับหมื่นคนที่อาศัยอยู่แนวริมชายฝั่งออกจากพื้นที่แล้ว และภาพที่เกิดขึ้นก็คือการจรจาจรที่ติดขัดแน่นขนัดบนทางหลวงเส้นทางมุ่งออกนอกเมือง รวมทั้งแถวยาวเหยียดของผู้โดยสารตกค้างที่สนามบินหลุยส์ อาร์มสตรอง เนื่องจากทุกเที่ยวบินถูกยกเลิกตั้งแต่วันอาทิตย์ (29 ส.ค.)