กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือ “โอเปกพลัส” บรรลุข้อตกลงใน การประชุมกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมัน เมื่อวันที่ 1 ก.ย. โดยทางกลุ่มคงมติที่ตกลงกันไว้เดิมว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วัน ทุกเดือนนับจากสิงหาคมไปจนถึงสิ้นปี
แถลงการณ์ของโอเปกพลัสระบุว่า ถึงแม้ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังคงสร้างความไม่แน่นอนให้เกิดขึ้นในตลาด แต่ปัจจัยพื้นฐาน (ของตลาด)ก็แข็งแกร่งขึ้น ขณะที่สต็อกน้ำมันในกลุ่มประเทศ OECD ยังคงปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้โอเปกพลัสเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วัน ในเดือนต.ค.นี้เช่นเดียวกับที่ได้เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วันในเดือนก.ย. และจะเป็นเช่นนั้นไปทุกเดือนจนสิ้นปี
การประชุมกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันของโอเปกพลัสครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 4 ต.ค.2564
สื่อต่างประเทศระบุว่า ก่อนการเผยแพร่ผลการประชุมครั้งล่าสุดของกลุ่มโอเปกพลัสเมื่อวานนี้ ราคาน้ำมัน WTI สัญญาซื้อขายล่วงหน้า มีการปรับตัวแคบ ๆ โดย ณ เวลา 18.00 น.ของวันที่ 1 ก.ย. ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนต.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX ราคาปรับขึ้น 13 เซนต์ หรือเพิ่ม 0.19% สู่ระดับ 68.63 ดอลลาร์/บาร์เรล
ก่อนหน้านี้ สหรัฐเรียกร้องให้โอเปกพลัสผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และสกัดราคาที่กำลังพุ่งขึ้น ท่ามกลางความกังวลที่ว่าเงินเฟ้อที่ดีดตัวขึ้นจะกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ หลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐได้หารือกับซาอุดีอาระเบีย รวมทั้งตัวแทนจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และสมาชิกรายอื่นของโอเปกพลัส เกี่ยวกับการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน
ขณะเดียวกัน โอเปกพลัสได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันในปีหน้า (2565) สู่ระดับ 4.2 ล้านบาร์เรล/วัน จากเดิมที่คาดไว้ในระดับ 3.28 ล้านบาร์เรล/วัน