กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) รวมถึง รัสเซีย หรือที่รู้จักกันในชื่อ "กลุ่มโอเปกพลัส" จะเปิดการประชุมในวันพุธนี้ (1 ก.ย.) โดยจะมีการหารือเกี่ยวกับมติการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันขึ้นสู่ระดับ 400,000 บาร์เรลต่อวันในช่วงเดือนข้างหน้า ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ประชุมได้มีข้อตกลงร่วมกันเมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา
นายโมฮัมมัด อับดุลลาทิฟ อัล-ฟาเรส รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันคูเวตกล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ ว่า ตลาดน้ำมันกำลังชะลอตัวลง เนื่องจากโควิด-19 ได้แพร่ระบาดระลอกที่ 4 ในหลายประเทศทั่วโลก ทางกลุ่มโอเปกจึงต้องระมัดระวังและพิจารณาถึงการปรับเพิ่มกำลังการผลิต ซึ่งอาจส่งผลให้ต้องระงับมติการปรับเพิ่มกำลังการผลิตไว้ก่อนเป็นการชั่วคราว
นอกจากนี้ นายฟาเรสยังย้ำด้วยว่า เศรษฐกิจของประเทศในเอเชียตะวันออกและจีน ยังคงได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งต้องนำประเด็นดังกล่าวมาประกอบการพิจารณาด้วย
ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐอเมริกา ยังได้เรียกร้องให้โอเปกและชาติพันธมิตรเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพื่อรับมือกับราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น โดยมองว่าการปรับขึ้นของราคาน้ำมันจะเป็นภัยคุกคามต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
อย่างไรก็ตาม นายฟาเรสกล่าวว่า โอเปกมีมุมมองต่อการแก้ปัญหาดังกล่าวที่แตกต่างกัน
"มีการประชุมระหว่างกลุ่มประเทศโอเปก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศของสภาความร่วมมืออ่าวอาหรับ และจนถึงขณะนี้ เรามีมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับวิธีการจัดการกับปัญหาราคาน้ำมัน"
เมื่อปีที่ผ่านมา (2563) โอเปกพลัสได้ดำเนินการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเท่ากับประมาณ 10% ของความต้องการใช้งานทั่วโลกเนื่องจากความต้องการพลังงานลดลงแบบดำดิ่ง อันเป็นผลมาจากข้อจำกัดด้านการเดินทางและมาตรการล็อกดาวน์ของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ขณะนี้ ก็ยังคงมีการแพร่ระบาดอย่างหนักหน่วงอยู่