หากผลเลือกตั้งนำชัยชนะมาสู่ พรรค SPD จริง นั่นก็หมายถึงการสิ้นสุดลงของอำนาจการบริหารโดยฝ่ายอนุรักษ์นิยมอย่าง พรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียน (CDU) / พรรคสหภาพสังคมคริสเตียน (CSU) ของ นางอันเกลา แมร์เคิล ที่ประกาศวางมือทางการเมืองแล้ว
ก่อนหน้านี้นางแมร์เคิลประกาศว่าจะลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหลังมีการเลือกตั้ง ซึ่งทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ กลายเป็นการกำหนดแนวทางในอนาคตของเยอรมนีที่มีระบบเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยุโรป
สถานีโทรทัศน์ ZDF ของเยอรมนีเผยการคาดการณ์ผลการเลือกตั้ง โดยระบุว่า พรรค SPD มีแนวโน้มว่าจะได้คะแนนเลือกตั้ง 26% ซึ่งมากกว่า 24.5% ของพรรค CDU/CSU
ทั้งสองพรรคเชื่อว่าตนสามารถขึ้นมาเป็นผู้นำรัฐบาลเยอรมนีได้ แต่เนื่องจากไม่มีฝ่ายใดได้รับเสียงสนับสนุนอย่างท่วมท้น จึงคาดว่ารัฐบาลเยอรมนีที่กำลังจะจัดตั้งขึ้นใหม่นั้น น่าจะมาจากการจับมือเป็นพันธมิตรระหว่างพรรค SPD และพรรค CDU/CSU แทนที่จะเป็นรูปแบบรัฐบาลผสมดังเช่นในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา กระนั้นก็ตามคาดว่าอาจต้องใช้เวลานานนับเดือนหลังการเลือกตั้ง กว่าจะได้เห็นการฟอร์มทีมรัฐบาลชุดใหม่ขึ้นมา
นายโอลาฟ โชลซ์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตัวแทนพรรค SPD เปิดเผยว่า พรรคของเขามีคะแนนนำในทุกผลโพล และนั่นก็ทำให้พรรคมีกำลังใจ ที่สำคัญคือเขามองว่า ชัยชนะของ SPD แสดงให้เห็นถึงความต้องการที่ชัดเจนของประชาชนในการจัดตั้งรัฐบาลที่สามารถบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ นายโชลซ์ เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในรัฐบาลของนางแมร์เคิล นอกจากนี้ เขายังเคยเป็นนายกเทศมนตรีของเมืองฮัมบวร์กด้วย