บิตคอยน์พุ่งไม่หยุดทะลุ 61,000 ดอลล์ รับข่าวสหรัฐจ่อตั้งกองทุน ETF บิตคอยน์

15 ต.ค. 2564 | 18:23 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ต.ค. 2564 | 01:40 น.

ราคาบิตคอยน์ยังคงพุ่งต่อเนื่องใกล้ทุบนิวไฮ ทะลุ 61,000 ดอลลาร์ ยืนเหนือ 2,000,000 บาท สะท้อนความคาดหวังของนักลงทุนที่เชื่อว่า คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ จะให้การอนุมัติจัดตั้งกองทุน ETF บิตคอยน์เพื่อทำการซื้อขายในตลาดล่วงหน้าในเร็ววัน

บิตคอยน์ พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันนี้ (16 ต.ค.) ล่าสุดทะลุระดับ 61,000 ดอลลาร์ และอยู่เหนือระดับ 2,000,000 บาท โดยนักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่า คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) จะให้การอนุมัติจัดตั้งกองทุน ETF บิตคอยน์ เพื่อทำการซื้อขายในตลาดล่วงหน้า

 

ณ เวลา 00.33 น.ของวันที่ 16 ต.ค. ตามเวลาไทย บิตคอยน์ทะยานขึ้น 5.98% สู่ระดับ 61,333.62 ดอลลาร์ หรือราว 2,042,400 บาท ในการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม Coinbase โดยก่อนหน้านี้ บิตคอยน์ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 64,889 ดอลลาร์เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา

 

นายเบน เคสลิน หัวหน้าฝ่ายวิจัยของบริษัท AAX คาดการณ์ว่า การจัดตั้งกองทุน ETF บิตคอยน์ในสหรัฐจะมีความคืบหน้ามากขึ้นในไตรมาส 4 ของปีนี้ (2564)

 

ทั้งนี้ เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา บริษัท Ark Investment Management (อาร์ค อินเวสเมนท์ แนเนจเมนท์) ซึ่งบริหารงานโดยนางเคธี วูด ได้ยื่นเรื่องต่อ SEC เพื่อขอจัดตั้งกองทุน ETF บิตคอยน์

บิตคอยน์พุ่งไม่หยุดทะลุ 61,000 ดอลล์ รับข่าวสหรัฐจ่อตั้งกองทุน ETF บิตคอยน์

ข่าวระบุว่า ARK ถือเป็นบริษัทรายที่ 3 ที่ยื่นเรื่องขออนุมัติจัดตั้งกองทุน ETF บิตคอยน์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ บริษัท Fidelity (ฟิเดลลิตี) และ CBOE Global Markets (ซีบีโอบี โกลบอล มาร์เก็ตส์)ได้ยื่นขออนุมัติต่อ SEC เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา

 

นอกจากนี้ บิตคอยน์ยังได้ปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า กองทุนของนายจอร์จ โซรอส เจ้าของฉายาพ่อมดการเงิน ได้เข้ามาลงทุนในบิตคอยน์

 

สถิติที่ผ่านมาบ่งชี้ว่า สกุลเงินดิจิทัลมักปรับตัวได้ดีในเดือนต.ค. โดยสามารถฟื้นตัวขึ้นหลังจากปรับตัวย่ำแย่ในเดือนก.ย. ซึ่งรูปแบบการปรับตัวของบิตคอยน์ในปีนี้ก็สอดคล้องกับที่เคยเกิดขึ้นในอดีต โดยบิตคอยน์ดิ่งลงอย่างหนักในเดือนก.ย.ปีนี้ ใกล้หลุดระดับ 40,000 ดอลลาร์ หลังจีนสั่งกวาดล้างการทำธุรกรรมทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับบิตคอยน์

 

โดยเมื่อเร็ว ๆนี้ ธนาคารกลางจีนออกแถลงการณ์ระบุว่า การทำธุรกรรมทางการเงินทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งรวมถึงบิตคอยน์ ถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย และจะถูกกวาดล้างอย่างหนัก นอกจากนี้ แพลตฟอร์มจากต่างประเทศที่ให้บริการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลแก่ลูกค้าในจีน ก็ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายเช่นกัน และพนักงานที่ทำงานให้แก่แพลตฟอร์มดังกล่าวจะต้องถูกดำเนินการสอบสวน

 

ก่อนหน้านี้ในเดือนก.ค. ธนาคารกลางจีนมีคำสั่งห้ามสถาบันการเงิน รวมทั้ง Alipay ซึ่งเป็นบริการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ในเครือของบริษัทแอนท์กรุ๊ปของอาลีบาบา ให้บริการที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินคริปโต ขณะที่รัฐบาลจีนสั่งกวาดล้างเหมืองขุดบิตคอยน์อย่างหนัก