รมต.อิเหนาบินด่วนทาบทาม "เมอร์ค" ตั้งโรงงานผลิตยาโมลนูพิราเวียร์ในอินโดฯ

20 ต.ค. 2564 | 01:16 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ต.ค. 2564 | 14:26 น.

ตัวแทนระดับรัฐมนตรีของอินโดนีเซียกำลังเดินทางเยือนสหรัฐในขณะนี้เพื่อเตรียมเจรจากับบริษัทเมอร์ค แอนด์ โค ทาบทามขอให้ “เมอร์ค” เข้ามาตั้งโรงงานผลิตยา "โมลนูพิราเวียร์" ในประเทศอินโดนีเซีย

นายลูฮัต บินซาร์ ปันด์ไจตัน รัฐมนตรีการลงทุนของอินโดนีเซีย เปิดเผยวานนี้ (19 ต.ค.) ว่า ตัวเขาเองและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของอินโดนีเซีย กำลังอยู่ที่สหรัฐอเมริกา เพื่อเตรียมประชุมกับผู้บริหารของบริษัทเมอร์คเกี่ยวกับการผลิตยาโมลนูพิราเวียร์ โดยการประชุมจะมีขึ้นในวันพุธนี้ (20 ต.ค. เวลาท้องถิ่นสหรัฐ) ที่นิวยอร์ก

 

"เราต้องการเป็นมากกว่าผู้ซื้อ เราต้องการให้เมอร์คเข้ามาลงทุนและตั้งโรงงานผลิตยาโมลนูพิราเวียร์ในอินโดนีเซีย" นายลูฮัตกล่าว

 

ด้านนายบูดี กูนาดี ซาดิคิน รัฐมนตรีสาธารณสุขอินโดนีเซีย เสริมว่า ทันทีที่อินโดนีเซียมีวัคซีนและยารักษาโรคโควิด-19  ก็จะสามารถลดความรุนแรงของโควิด-19 จากเดิมที่เป็นโรคระบาดร้ายแรง ให้กลายเป็นเพียงโรคประจำถิ่นได้

รมต.อิเหนาบินด่วนทาบทาม \"เมอร์ค\" ตั้งโรงงานผลิตยาโมลนูพิราเวียร์ในอินโดฯ

ทั้งนี้ อินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิตสูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อกว่า 4.2 ล้านราย และเสียชีวิตกว่า 143,000 ราย (ข้อมูล ณ 19 ต.ค.)

 

ในวันเดียวกันนั้น สำนักข่าวรอยเตอร์ได้รายงานอ้างอิงเอกสารฉบับร่างขององค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า WHO กำลังเจรจากับบริษัท "เมอร์ค" เพื่อขอซื้อยาเม็ดโมลนูพิราเวียร์ในราคาเพียง 300 บาท/คอร์ส สำหรับการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ภายใต้โครงการที่จะช่วยให้ประเทศยากจน-รายได้ต่ำ สามารถเข้าถึงวัคซีนและยาต้านโควิด-19 ในราคาที่จับต้องได้ (อ่านเพิ่มเติม: WHO เจรจา "เมอร์ค" ขอซื้อยาโมลนูพิราเวียร์ในราคาเพียง 300 บาท/คอร์ส)