รัสเซียหลังชนฝาสู้โควิด ประกาศหยุดงานทั่วประเทศ 7 วันไม่หักค่าแรง

21 ต.ค. 2564 | 02:50 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ต.ค. 2564 | 10:09 น.

วลาดีเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ประกาศสัปดาห์แห่งวันหยุดทำงานโดยไม่หักค่าแรง รวมเวลา 7 วัน ตั้งแต่ 30 ต.ค. ถึง 7 พ.ย.นี้ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่อยู่ในจุดสูงสุดของการระบาดระลอกใหม่ โดยเขาขอให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีน และหยุดอยู่กับบ้านให้มากที่สุด

ในการประชุมกับคณะรัฐมนตรีทางไกลเมื่อวันพุธ (20 ต.ค.) ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เรียกร้องการสนับสนุนจากภาคธุรกิจที่อาจจะต้องสูญเสียรายได้วันละ 4,000 ล้านรูเบิล หรือราว 1,897 ล้านบาท ตลอดวันหยุดทำงาน 7 วันโดยไม่หักค่าแรงตามที่รัฐบาลประกาศ พร้อมทั้งย้ำว่าการปฏิเสธการฉีดวัคซีนของประชาชนเป็นสิ่งที่น่ากลัวอย่างยิ่งในเวลานี้

 

“เรามีเพียงสองทางที่จะผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ นั่นคือ จะ“ป่วย” หรือจะ “ฉีดวัคซีน” แต่ฉีดวัคซีนย่อมดีกว่า เราจะรอให้ป่วยและเผชิญกับผลร้ายที่จะตามมาทำไมกัน” ปธน.ปูตินกล่าว พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประชาชนแสดงความรับผิดชอบต่อตัวเองและสังคมด้วยการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองจากเชื้อโควิดและดูแลปกป้องคนที่รักและห่วงใยควบคู่กันไป

 

ตัวปธน.ปูตินเองนั้นได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบโดสแล้วโดยเขาเข้ารับ วัคซีน “สปุตนิก วี” ที่วิจัยและผลิตในรัสเซียตั้งแต่เมื่อต้นปีนี้ “ไม่เข้าใจว่าทำไมหลายคนยังลังเลที่จะฉีดวัคซีนป้องกันตัวเอง เรามีวัคซีนที่เชื่อถือได้และมีประสิทธิภาพ วัคซีนของเราช่วยลดความเสี่ยงที่จะเจ็บป่วยอาการหนักและความเสี่ยงถึงขั้นเสียชีวิตได้จริงๆ”  

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน

นอกจากนี้ ประธานาธิบดียังเรียกร้องให้เขตปกครองต่างๆ ประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 หากมีความจำเป็น เช่น อัตราการเกิดโรคสูงเป็นพิเศษ หรือสถานพยาบาลมีการปฏิบัติงานเกินพิกัด ก็สามารถเริ่มประกาศวันหยุดทำงานตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค.ได้เลย

 

แม้ว่ารัสเซียจะเป็นประเทศแรกในโลกที่ประกาศขึ้นทะเบียนวัคซีนป้องกันโคโรนาไวรัสโควิด19 เมื่อเดือนสิงหาคม 2563 และมีปริมาณวัคซีนพอเพียงใช้ภายในประเทศ แต่อัตราการฉีดวัคซีนครบโดสของประชาชนกลับต่ำอยู่ที่ระดับเพียง 32% หรือประมาณ 45 ล้านคน จากประชากรทั้งประเทศที่มีอยู่เกือบ ๆ 146 ล้านคน ทั้งนี้ นอกจากสปุตนิก วี แล้ว รัสเซียยังมีวัคซีนต้านโควิดที่พัฒนาและผลิตเองภายในประเทศอีก 3 ตัว แต่ประชาชนจำนวนมากก็ยังลังเลที่จะเข้ารับวัคซีน

 

รายงานข่าวระบุว่า ปัจจุบัน รัสเซียกำลังอยู่ในช่วงรุนแรงที่สุดของการแพร่ระบาดของโควิดระลอกใหม่ โดยยอดผู้เสียชีวิตรายวันทำสถิติสูงสุดอีกครั้งที่ 1,028 ราย นับเป็นผู้เสียชีวิตเกินวันละ 1,000 ราย ติดต่อกันเป็นวันที่สอง จากวันก่อนหน้า (19 ต.ค.) มีผู้เสียชีวิตจากโควิด 1,015 ราย ส่วนวันแรกที่รัสเซียมีผู้เสียชีวิตจากโควิดเกิน 1,000 รายนั้น คือวันที่ 16 ต.ค. มีผู้เสียชีวิต 1,002 ราย

 

ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทั่วประเทศรัสเซียที่เป็นยอดสะสม เพิ่มขึ้นเป็น 226,353 ราย ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในยุโรป ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อโควิดทั่วประเทศอยู่ที่ 8,904,825 ราย (เพิ่มขึ้น 34,073 ราย ณ วันที่ 20 ต.ค.) ทำให้รัสเซียอยู่ในอันดับที่ 4 ของโลกในแง่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดสะสม รองจากสหรัฐอเมริกา บราซิล และอินเดีย

รัสเซียหลังชนฝาสู้โควิด ประกาศหยุดงานทั่วประเทศ 7 วันไม่หักค่าแรง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ว่า นายเซอร์เก ซอบยานิน นายกเทศมนตรีกรุงมอสโก ประกาศให้ประชาชนในพื้นที่เมืองหลวงซึ่งยังไม่ได้ฉีดวัคซีน และมีอายุเกิน 60 ปี อยู่กับบ้านให้มากที่สุด หากยังคงทำงานขอให้ทำงานจากที่บ้าน ขณะที่สถานประกอบการทั้งของรัฐและเอกชนให้มีพนักงานเข้ามาทำงานในสำนักงานได้สูงสุด 70% และเจ้าหน้าที่รัฐต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ครบ คำสั่งทั้งหมดมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค.นี้ และมีผลถึงสิ้นเดือน ก.พ.ปีหน้า

 

ทั้งนี้ สถิติชี้ว่า ตั้งแต่วันที่ 13-20 ต.ค. ในกรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซียมีผู้ป่วยโควิด-19 รายวันตั้งแต่ 4,400 - 6,800 ราย เข้าโรงพยาบาลวันละ 1,600 รายโดยเฉลี่ย ส่วนในรอบ 24 ชั่วโมงของวันที่ 20 ต.ค. มีผู้ป่วยใหม่ 5,847 ราย เข้าโรงพยาบาล 1,529 ราย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมในกรุงมอสโก ตอนนี้อยู่ที่มากกว่า 1.5 ล้านราย ส่วนยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 30,381 ราย (เพิ่มขึ้น 76 ราย)

รัสเซียหลังชนฝาสู้โควิด ประกาศหยุดงานทั่วประเทศ 7 วันไม่หักค่าแรง