วันนี้(2 พ.ย.64) พล.ต.ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์และการป้องกันประเทศ ได้ประมวลและนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับ นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรี ของจีน เข้าร่วมการประชุมผู้นำอาเซียน-จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ครั้งที่ ๒๔ ผ่านระบบทางไกล ณ มหาศาลาประชาชน (ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงปักกิ่ง) เมื่อช่วงบ่ายวันที่ ๒๗ ต.ค.๖๔ โดยมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. นายหลี่ เค่อเฉียง ได้กล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมฯ ว่า ๑๐+๓ ประเทศเชื่อมต่อกันด้วยภูเขาและแม่น้ำรวมทั้งมีชะตากรรมร่วมกัน เรายึดหลักความร่วมมือ เดินหน้าสร้างเศรษฐกิจภูมิภาคให้เป็นหนึ่งเดียวอย่างต่อเนื่อง ร่วมรับมือความท้าทายต่าง ๆ ทั้งโควิด-19 พลังงาน อาหาร และการเงิน
ส่งเสริมการพัฒนาของทุกประเทศ เราควรใช้กลไกความร่วมมือที่สมบูรณ์และชัดเจนในการรับมือวิกฤติ ส่งเสริมการฟื้นตัวอย่างสมดุลรอบด้านของเอเชียตะวันออก รักษาความเจริญและเสถียรภาพของภูมิภาคในระยะยาว ร่วมสร้างเอเชียตะวันออกที่เปิดเสรี เปิดให้ทุกฝ่ายเข้าร่วมและพัฒนาอย่างยั่งยืน
๒. นายหลี่ เค่อเฉียง ได้มีข้อเสนอแนะต่อที่ประชุม ๖ ประการ ได้แก่
๒.๑ ปรับปรุงการกำกับดูแลสาธารณสุขให้สมบูรณ์ขึ้น เร่งสร้างศูนย์สำรองวัสดุทางการแพทย์ฉุกเฉิน ๑๐+๓ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการตอบสนองต่อโรคระบาดในภูมิภาค รวมทั้งสนับสนุนให้ที่ประชุมออกแถลงการณ์ความร่วมมือด้านสุขภาพจิตของวัยรุ่นและเด็ก
๒.๒ ลงลึกการสร้างเศรษฐกิจภูมิภาคให้เป็นหนึ่งเดียว โดยเฉพาะความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ซึ่งจำเป็นต้องเร่งให้ข้อตกลงมีผลใช้บังคับตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อสร้างการบูรณาการในระดับที่สูงขึ้น
๒.๓ เพิ่มความร่วมมือในการพัฒนาเศรษฐกิจของเอเชียตะวันออก เพื่อปลดบล็อกวัฏจักรเศรษฐกิจในภูมิภาค
๒.๔ ส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลของเอเชียตะวันออก รวมถึงความปลอดภัยทางไซเบอร์
๒.๕ กระตุ้นพลังความร่วมมือด้านการคลังและเงินทุน โดยเฉพาะการมีผลบังคับใช้ของข้อตกลงพหุภาคีตามข้อริเริ่มเชียงใหม่
๒.๖ ส่งเสริมการเติบโตที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเพิ่มการสนับสนุนและการลงทุนในกลไกสำรองข้าวฉุกเฉิน ๑๐+๓ เพื่อรักษาความมั่นคงด้านอาหารในภูมิภาค
บทสรุป นายหลี่ เค่อเฉียง เน้นย้ำว่า จีนยินดีร่วมกับทุกฝ่ายรักษาเสถียรภาพในภูมิภาค ส่งเสริมสันติภาพโลก เดินหน้าฟื้นฟูเศรษฐกิจในภูมิภาค รวมทั้งสร้างขั้วการเติบโตที่เข้มแข็งของเศรษฐกิจโลก
ทั้งนี้ ในการประชุมฯ ได้มีการผ่าน "แถลงการณ์ผู้นำ ๑๐+๓ เรื่องความร่วมมือด้านสุขภาพจิตของวัยรุ่นและเด็ก" อีกด้วย
(ข้อมูลจากเว็บไซต์ http://www.chinaembassy.or.th/chn/zgyw/t1917264.htm )