สำนักงานความมั่นคงด้านสุขภาพแห่งสหราชอาณาจักร (UKHSA) เปิดเผยว่า อังกฤษ พบผู้ติดเชื้อ ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน เพิ่มขึ้นถึง 86 รายเมื่อวานนี้ (5 ธ.ค.) ดันยอดรวมผู้ติดเชื้อทั้งหมดอยู่ที่ 246 ราย
ทั้งนี้ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (4 ธ.ค.) ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโอไมครอนทั้งหมดอยู่ที่ 160 ราย จึงเท่ากับว่า อังกฤษพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเกิน 50% ภายในวันเดียว
ส่วนยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ทั้งหมดเมื่อนับรวมสายพันธุ์อื่น ๆ ด้วยอยู่ที่ 43,992 รายเมื่อวานนี้ (5 ธ.ค.) ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของอังกฤษอยู่ที่ 10,464,389 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ยังคงเพิ่มขึ้นอีก 54 ราย ทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 145,605 ราย
ข้อมูลล่าสุดวันนี้ (6 ธ.ค.) อังกฤษยังคงเป็นประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมมากเป็นอันดับที่ 4 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา อินเดีย และบราซิล ตามลำดับ
โดย 10 อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อโควิดสะสมสูงสุด นั้นประกอบด้วย
(ข้อมูลจาก www.worldometers.info/coronavirus/)
นายซาจิด จาวิด รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของอังกฤษเปิดเผยว่า สถานการณ์ดังกล่าวทำให้อังกฤษจำเป็นต้องเพิ่มความเข้มงวดในการเปิดรับผู้เดินทางเข้าประเทศ โดยผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศซึ่งรวมถึงเด็กที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป จะต้องทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนออกเดินทางมายังอังกฤษเป็นเวลา 48 ชั่วโมง มาตรการดังกล่าวนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 11.00 น. ของวันพรุ่งนี้ (7 ธ.ค.) ตามเวลาประเทศไทย
นอกจากนี้ อังกฤษยังได้เพิ่มไนจีเรียเข้าในบัญชีรายชื่อประเทศเสี่ยงโควิด-19 เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ “โอไมครอน” ซึ่งกำลังเป็นที่วิตกกังวลในขณะนี้