อาร์คบิชอป เดสมอนด์ ตูตู (Desmond Tutu) เจ้าของรางวัล โนเบลสันติภาพชาวแอฟริกาใต้ เสียชีวิตอย่างสงบวานนี้ (26 ธ.ค.) ที่เมืองเคปทาวน์ขณะที่มีอายุได้ 90 ปี หลังจากที่ป่วยเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากมาเป็นเวลานาน ด้านประธานาธิบดี ไซริล รัมมาโฟซา แห่งแอฟริกาใต้ กล่าวถึงการสูญเสียบุคคลสำคัญครั้งนี้ว่า ถือเป็นอีกบทของการสูญเสียครั้งสำคัญของประเทศ
อาร์คบิชอป เดสมอนด์ ตูตู เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงทั้งในแอฟริกาใต้และต่างประเทศ จากการใช้วิธีต่อต้านนโยบายการเหยียดผิวของรัฐบาลผิวขาวที่ถือเป็นชนกลุ่มน้อยในแอฟริกาใต้ เขาได้รับรางวัลโนเบล สันติภาพ เมื่อปี 1984 (พ.ศ.2527)
“ตูตูเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณที่โดดเด่น และยังเป็นนักเคลื่อนไหวต่อต้านการเหยียดผิว ตลอดจนนักรณรงค์ด้านสิทธิมนุษยชนระดับโลก อีกทั้งยังเป็นผู้รักชาติที่ไม่มีใครเทียบเทียมได้” ประธานาธิบดีไซริล แห่งแอฟริกาใต้ กล่าวไว้อาลัย
ในช่วงปลายยุค 90 อาร์คบิชอป เดสมอนด์ ตูตู ได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยด้วยโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก เขาต้องเข้ารับการรักษาตัวสำหรับอาการติดเชื้อที่เกี่ยวข้องกับการวินิจฉัยโรคมะเร็งเมื่อไม่กี่ปีมานี้
นายเนลสัน แมนเดลา อดีตผู้นำแอฟริกาใต้และเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพปี 1993 (พ.ศ. 2536) ซึ่งล่วงลับไปแล้ว เคยกล่าวถึงอาร์ชบิชอปเดสมอนด์ ตูตู ว่า บางครั้งท่านเป็นคนแข็งกร้าว แต่บ่อยครั้งคืออ่อนโยน ไม่เคยกลัวอะไรเลย และแทบจะไม่เคยขาดอารมณ์ขัน
อาร์คบิชอปเดสมอนด์ ตูตู เกิดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ค.ศ. 1931 ในเมืองเคลิกส์ดอร์ป แคว้นทรานส์วาล ประเทศแอฟริกาใต้ พ่อของท่านเป็นครูใหญ่โรงเรียนประถม ซึ่งน่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ท่านได้เรียนหนังสือมากกว่าเด็กผิวดำ ส่วนแม่ของท่านเป็นทั้งแม่ครัวและภารโรงของโรงเรียนแห่งนั้น
ความทรงจำเก่าแก่ตั้งแต่สมัยท่านยังเด็กมาก ๆ คือ วันหนึ่งขณะที่ท่านยืนอยู่กับแม่ที่ริมถนน มีบาทหลวงรูปหนึ่งซึ่งเป็นคนขาวเดินสวนทางมา ขณะที่กำลังจะเดินผ่านไป บาทหลวงได้เปิดหมวกให้แม่ของท่านด้วย ท่านจำได้ว่ารู้สึกตกใจมาก เพราะไม่เคยเห็นคนขาวแสดงความเคารพหรือแม้แต่แสดงความสุภาพต่อคนผิวดำมาก่อน บาทหลวงรูปนี้แท้จริงแล้วมีชื่อว่า บาทหลวงเทรเวอร์ ฮัดเดิลสตัน (Trevor Huddleston) ท่านมีหน้าที่ดูแลโบสถ์ในเขตสลัมของชาวแอฟริกันผิวดำในโซเฟียทาวน์ นครโจฮันเนสเบิร์ก นับจากวันนั้นบาทหลวงเทรเวอร์ก็กลายเป็นผู้คอยรับฟังปัญหา และเป็นแรงบันดาลใจของอาร์คบิชอปเดสมอนด์ในวัยเด็ก
ท่านอาร์คบิชอปเดสมอนด์ ตูตู โตเป็นหนุ่มในช่วงที่รัฐบาลแอฟริกาใต้นำนโยบายแบ่งแยกสีผิวมาใช้ (ค.ศ. 1948 – 1994) สมัยนั้นท่านทำงานเป็นครูสอนหนังสือ ทว่าด้วยความที่นโยบายดังกล่าวไม่ให้ความเท่าเทียมทางการศึกษากับเด็กผิวดำ ท่านจึงลาออกและตัดสินใจที่จะเป็นพระเพื่อดำเนินรอยตามหลวงพ่อเทรเวอร์ ซึ่งเป็นทั้งต้นแบบและแรงบันดาลใจให้กับท่าน
ต่อมาท่านได้เข้าเรียนวิชาเทววิทยาที่ St Peter’s Theological College ในนครโจฮันเนสเบิร์ก และบวชเป็นพระในคริสต์ศาสนานิกายแองกลิคัน (Anglican) ในปี ค.ศ. 1960 ท่านได้รับปริญญาตรีและปริญญาโทด้านเทววิทยาจากมหาวิทยาลัย King’s College ประเทศอังกฤษ หลังจากนั้นจึงกลับมาเริ่มงานสอนหนังสือที่บ้านเกิด กระทั่งปี ค.ศ. 1975 ก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะแองกลิคันในนครโจฮันเนสเบิร์ก และดำรงตำแหน่งเลขาธิการของ The South African Council of Churches ระหว่างปี ค.ศ. 1976 – 1978 ทำให้ท่านได้แรงสนับสนุนจากโบสถ์ทุกแห่งในแอฟริกาใต้
อาร์คบิชอป เดสมอนด์ ตูตู เขียนบทความและเดินสายแสดงปาฐกถาทั้งในบ้านเกิดและต่างประเทศ เพื่อให้ทุกฝ่ายหันมาต่อต้านนโยบายแบ่งแยกสีผิว ท่านกล่าวประณามนโยบายนี้อย่างเผ็ดร้อนตรงไปตรงมา ซึ่งทำให้ท่านถูกยึดพาสปอร์ตถึงสองครั้งและเคยถูกจับขังคุกมาแล้ว
หนึ่งในวิธีการที่ท่านทำเพื่อกดดันรัฐบาลแอฟริกาใต้ในขณะนั้นก็คือ การเรียกร้องให้นานาชาติดำเนินการคว่ำบาตรแอฟริกาใต้บ้านเกิดของท่านเองต่อกรณีละเมิดสิทธิมนุษยชน เพราะเชื่อว่าในที่สุดเศรษฐกิจที่ตกต่ำจะผลักดันให้รัฐบาลต้องเปลี่ยนนโยบาย วิธีของท่านส่งผลให้สหรัฐอเมริกาและอังกฤษ ซึ่งเป็นสองประเทศที่เข้ามาลงทุนในแอฟริกาใต้มากที่สุดถอนการลงทุนไปหมด ช่วงนั้นค่าเงินตกต่ำลงกว่า 35% และเหตุการณ์ก็เป็นอย่างที่อาร์คบิชอปคาดการณ์ไว้ รัฐบาลต้องทำการปฏิรูป ท่านจึงเริ่มจัดการเดินขบวนอย่างสันติ ด้วยการนำคนกว่า 30,000 คนออกมาเดินบนถนนในเคปทาวน์ (ขณะนั้นเนลสัน แมนเดลา ยังคงติดคุกอยู่)
ในปี ค.ศ. 1984 คณะกรรมการโนเบลได้มอบรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพให้แก่ท่าน ต่อมาในปี ค.ศ. 1985 ท่านก็ได้รับแต่งตั้งเป็นบิชอปแห่งโจฮันเนสเบิร์ก และจากนั้นก็ได้รับตำแหน่งอาร์คบิชอปแห่งเคปทาวน์ มีหน้าที่ปกครองศาสนจักรนิกายแองกลิคันตลอดทั้งทวีปแอฟริกาตอนใต้ นับว่าท่านเป็นคนผิวดำคนแรกที่ได้รับตำแหน่งนี้