ยูทูบ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือกูเกิล ได้ประกาศว่า จะสกัดกั้น รัสเซีย ในการสร้างรายได้จากเนื้อหาต่าง ๆบนแพลตฟอร์มของยูทูบ ซึ่งรวมถึงสำนักข่าวรายใหญ่ของรัสเซียอย่าง RT (Russia Today) ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลรัสเซีย
นอกจากนี้ ยูทูบยังบล็อคการเข้าถึงช่องสื่อของรัสเซียหลายช่อง เช่น Russia 24, TASS และ RIA Novosti จากผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในยูเครน ตามคำขอของนายมิคไคโล เฟโดรอฟ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีดิจิทัลของยูเครน ทวีตว่า เขาได้ติดต่อยูทูบเพื่อขอให้แพลตฟอร์มดังกล่าว ปิดช่องทางโฆษณาชวนเชื่อของรัสเซีย ซึ่งเขาหมายถึงช่อง Russia 24 , TASS และ RIA Novosti โดยเฉพาะ
ในปี 2017 กระทรวงยุติธรรมสหรัฐบังคับให้สาขาของ RT (Russia Today) ในอเมริกาลงทะเบียนเป็น “ตัวแทนต่างประเทศ" ของรัสเซีย ซึ่งนักวิจัยด้านข่าวกรองกล่าวว่า RT นั้น เป็นสื่อที่ดำเนินการส่งข้อความเชิงกลยุทธ์ให้กับรัฐบาลรัสเซีย
ท่ามกลางวิกฤตในยูเครนที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นและย่างเข้าสู่วันที่ห้าแล้วในสัปดาห์นี้ บริษัทผู้ให้บริการโซเชียลมีเดียต่างพยายามควบคุมข้อมูลเท็จและการโฆษณาชวนเชื่อของรัฐรัสเซีย โดยโฆษกของยูทูบกล่าวว่า บริษัทได้ลบช่องหลายร้อยช่องและวิดีโอนับพันรายการในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงช่องสำหรับการประสานงานที่หลอกลวงด้วย
ก่อนหน้าความเคลื่อนไหวของยูทูบ บริษัทเมตา (Meta) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก (Facebook) แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียรายใหญ่ ได้ประกาศการแบนรัสเซียไปก่อนแล้ว โดยเมตาได้ลดความสามารถของสื่อรัสเซียในการ “แสดงโฆษณา” และ “สร้างรายได้จากโฆษณา” บนแพลตฟอร์มของเมตา
นายนาธาเนียล เกลเชอร์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายความปลอดภัยของเมตา กล่าวในทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า นอกจากมาตรการที่กล่าวมาแล้ว เมตาจะควบคุมการโพสต์ (บนแพลตฟอร์มของเฟซบุ๊ก) จากสื่อของรัฐบาลรัสเซียเพิ่มเติมด้วย
"การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้เริ่มขึ้นแล้วและจะดำเนินต่อไปในช่วงสุดสัปดาห์ เรากำลังติดตามสถานการณ์ในยูเครนอย่างใกล้ชิด และจะคอยแชร์ขั้นตอนที่เราดำเนินการเพื่อปกป้องผู้คนบนแพลตฟอร์มของเราด้วย" เกลเชอร์กล่าว อย่างไรก็ตาม มาตรการของเมตาทำให้รัฐบาลรัฐบาลรัสเซียออกมาโต้กลับ โดยกระทรวงการสื่อสารของรัสเซียอ้างว่า แพลตฟอร์มเฟซบุ๊กมีการเซ็นเซอร์ที่ผิดกฎหมาย ทั้งยังละเมิดสิทธิและเสรีภาพของพลเมืองรัสเซีย โดยการปิดช่องทางการเข้าถึงสื่อรัสเซียหลายแห่งเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (24 ก.พ.)
นอกเหนือจากยูทูบ และเฟซบุ๊ก (เมตา) แล้ว ทวิตเตอร์ (Twitter) เป็นโซเชียลมีเดียรายล่าสุดที่ออกมาเปิดเผยว่า จะระงับโฆษณาในในแพลตฟอร์มทวิตเตอร์ที่ให้บริการในรัสเซีย – ยูเครน เนื่องจากสถานการณ์มีความรุนแรงและมีความขัดแย้งทางการเมือง
ทวิตเตอร์เองมีนโยบายอยู่แล้วว่าจะสั่งห้ามโฆษณาทางการเมือง นอกจากนี้ยังเล็งเห็นว่า สิ่งที่สำคัญในพื้นที่ความขัดแย้งและสงครามรัสเซีย - ยูเครน คือเรื่องความปลอดภัยของชีวิตประชาชนเป็นอันดับแรก ทวิตเตอร์ไม่อยากให้โฆษณามาเบี่ยงเบนเรื่องความเป็นความตายและความปลอดภัยในชีวิต
" เราต้องหยุดการโฆษณาในรัสเซียและยูเครนเป็นการชั่วคราวไปก่อน เพื่อให้ข้อมูลความปลอดภัยที่เป็นสาธารณะนั่นได้มีการเผยแพร่ และข้อมูลสำคัญจะไม่ถูกเบี่ยงเบนด้วยการโฆษณา” ทวิตเตอร์ประกาศ
แต่เนื่องจาก “พื้นที่สื่อ” ก็เป็นอาวุธสำคัญในสมรภูมิสงคราม เมื่อถูกคว่ำบาตรซึ่ง ๆหน้า โดยสื่อโซเชียลมีเดียรายใหญ่ ซึ่งทั้งหมดเป็นสื่อที่ถือกำเนิดในสหรัฐอเมริกาและเป็นบริษัทสัญชาติอเมริกัน ดูเหมือนว่า รัฐบาลรัสเซียได้ออกโรงตอบโต้สื่อเหล่านี้แล้วโดยการบล็อกเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ในประเทศรัสเซียเป็นที่เรียบร้อย
เน็ตบล็อกส์ (NetBlocks) องค์กรตรวจสอบอินเทอร์เน็ตในลอนดอน เปิดเผยวันนี้ (28 ก.พ.) ว่า รัสเซียดูเหมือนจะบล็อกเฟซบุ๊กให้ใช้งานไม่ได้ในกลุ่มผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำของรัสเซีย ท่ามกลางความขัดแย้งที่เพิ่มขึ้นระหว่างรัสเซียกับเฟซบุ๊ก
ทั้งนี้ เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ที่กระจายเนื้อหาของเฟซบุ๊กในรัสเซียถูกจำกัดอย่างเห็นได้ชัดเมื่อวันอาทิตย์ (27 ก.พ.) ถึงขั้นที่เนื้อหาไม่โหลด หรือโหลดช้ามากจนทำให้แพลตฟอร์มใช้งานไม่ได้
ก่อนหน้านั้น รอสคอมนาดซอ (Roskomnadzor) หน่วยงานกำกับดูแลกิจการสื่อสารของรัสเซีย ได้ประกาศแผนบล็อกเฟซบุ๊กบางส่วนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (25 ก.พ.) เป็นการตอบโต้ที่ในวันเดียวกันนั้น หัวหน้าฝ่ายนโยบายความปลอดภัยของเฟซบุ๊กกล่าวว่า บริษัทห้ามไม่ให้สื่อของรัฐบาลรัสเซียแสดงโฆษณาหรือหากำไรบนแพลตฟอร์มของเฟซบุ๊กไม่ว่าที่ใดในโลก
นอกจากนี้ เฟซบุ๊กยังปฏิเสธรัฐบาลรัสเซียที่ขอให้เฟซบุ๊กไม่ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับกรณีรัสเซียรุกรานยูเครนบนแพลตฟอร์มเฟซบุ๊กสำหรับผู้ใช้ในรัสเซียอีกด้วย
เน็ตบล็อกส์ยังรายงานว่า “ทวิตเตอร์” ก็ได้ถูกบล็อกในลักษณะเดียวกันนี้เมื่อวันเสาร์ (26 ก.พ.) โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้น 1 วันหลังจากที่ทวิตเตอร์ประกาศว่าจะระงับโฆษณาชั่วคราวทั้งในยูเครนและรัสเซีย
อย่างไรก็ดี ผู้ใช้งานในรัสเซียยังสามารถใช้ซอฟต์แวร์ VPN เพื่อเข้าถึงทวิตเตอร์และเฟซบุ๊กที่ถูกบล็อกได้ เหมือนกับที่ผู้ใช้งานในจีนแผ่นดินใหญ่ใช้เข้าทวิตเตอร์และเฟซบุ๊กในจีน