นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กล่าวเมื่อวันอังคาร (2 มี.ค.) ซึ่งตรงกับเช้าวันนี้ (พุธที่ 3 มี.ค.) เวลาประเทศไทย ในส่วนหนึ่งของ การแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ระบุว่า นายวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย คิดว่าชาติตะวันตกและ นาโต (องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ) จะไม่ทำอะไรกับเรื่องนี้ และคิดว่าจะทำให้นาโตแตกแยกกันเองได้ “แต่เขาคิดผิด และเราพร้อมแล้ว" ปธน.ไบเดนกล่าว
ผู้นำสหรัฐกล่าวประณามและเตือนประธานาธิบดีปูตินว่า "เผด็จการจะต้องชดใช้" และ"หากผู้นำเผด็จการไม่ได้รับบทเรียน พวกเขาจะยิ่งสร้างความวุ่นวายหนักขึ้น"
ในการแถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภาซึ่งเป็นครั้งแรกในสมัยการบริหารของปธน.ไบเดน เขาระบุว่า ชาติตะวันตกนั้นพร้อมรับมือต่อการกระทำของรัสเซียที่รุกรานยูเครน ซึ่งเป็นการโจมตีชาติอื่นทั้งที่ไม่ได้เป็นฝ่ายถูกยั่วยุก่อน และยังมีการตระเตรียมวางแผนล่วงหน้ามาเป็นอย่างดี
"ประวัติศาสตร์ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า หากผู้นำเผด็จการไม่ได้รับบทเรียน ไม่ได้ชดใช้ต่อการกระทำที่ก้าวร้าวรุกรานของตนเอง พวกเขาจะยิ่งสร้างความวุ่นวายหนักขึ้น ภัยคุกคามและความเสียหายที่มีต่อสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกก็จะยิ่งเพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ" ปธน.ไบเดนย้ำว่า ปูตินและพวกพ้องที่ฉ้อราษฎร์บังหลวงจะต้องชดใช้ด้วยความสูญเสียที่มีมูลค่าสูงในระยะยาว โดยสหรัฐและชาติพันธมิตรในยุโรปจะดำเนินการอายัดทรัพย์สินของบุคคลเหล่านี้เพิ่มเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรือยอชต์ เครื่องบินส่วนตัว และสิ่งของหรูหรามีราคาอื่น ๆ
ขณะเดียวกัน ปธน.ไบเดน ได้แสดงความชื่นชมต่อประชาชนชาวยูเครนที่เป็นเสมือน "ปราการแห่งความแข็งแกร่งที่ปูตินคาดไม่ถึง" ทั้งยังยกย่องประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ในความกล้าหาญและความมุ่งมั่นที่เป็นแรงบันดาลใจต่อผู้คนทั่วโลก
"ปูตินอาจใช้รถถังล้อมกรุงเคียฟเอาไว้ได้ แต่เขาจะไม่มีวันชนะใจประชาชนชาวยูเครนอย่างเด็ดขาด"
เอกชนอเมริกันดาหน้าต้านรัสเซีย-สหรัฐห้ามเที่ยวบินจากรัสเซียเข้าน่านฟ้า
ในบรรดาบริษัทอเมริกันที่คว่ำบาตรการทำธุรกิจกับรัสเซีย ล่าสุด บริษัทโบอิง ผู้ผลิตเครื่องบินของสหรัฐ ประกาศว่าจะหยุดให้บริการกับลูกค้าและตัวแทนจำหน่าย รวมทั้งระงับการดำเนินงานที่สำคัญในกรุงมอสโกของรัสเซียลงทั้งหมด เพื่อเป็นการตอบสนองต่อมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียของชาติตะวันตก
โบอิงแถลงว่าจะงดให้บริการซ่อมบำรุง เปลี่ยนอะไหล่ หรืองานสนับสนุนทางเทคนิคอื่น ๆ แก่เครื่องบินของรัสเซียทั้งหมด โดยขณะนี้ได้ปิดสำนักงานในกรุงเคียฟ และหยุดทำการฝึกอบรมนักบินที่กรุงมอสโกแล้ว
มาตรการดังกล่าวของโบอิง สอดคล้องกับคำสั่งล่าสุดของรัฐบาลสหรัฐที่ห้ามเที่ยวบินจากรัสเซียไม่ว่าจะเป็นเที่ยวบินพาณิชย์หรือเที่ยวบินส่วนตัวของเอกชน ไม่ให้ล่วงล้ำเข้ามาในน่านฟ้าของสหรัฐเป็นอันขาด ซึ่งเป็นมาตรการคว่ำบาตรแบบเดียวกับที่แคนาดาและสหภาพยุโรป (อียู) ประกาศใช้ไปก่อนหน้านี้
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐระบุในการแถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภาว่า การห้ามเที่ยวบินของรัสเซียเข้าน่านฟ้าสหรัฐจะยิ่งเพิ่มแรงกดดันและความเสียหายต่อเศรษฐกิจของรัสเซีย ซึ่งขณะนี้มูลค่าหุ้นในตลาดหลักทรัพย์รัสเซียตกลงไปราว 30-40% แล้ว