ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) หรือ ศาลโลก เตรียมเปิดการไต่สวนฉุกเฉินในสัปดาห์หน้าตามคำร้องของ ยูเครน เพื่อให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวโดยให้ รัสเซีย ยุติปฏิบัติการทางทหารในยูเครน
คณะตัวแทนจากยูเครนจะขึ้นให้การต่อศาลในวันที่ 7 มี.ค.เวลา 16.00 น.ตามเวลาไทย ขณะที่ตัวแทนจากรัสเซียจะให้การในวันที่ 8 มี.ค.
ทั้งนี้ ยูเครนร้องขอให้ศาลโลกตีความสนธิสัญญาปี 1948 ว่าด้วยการป้องกันการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ โดยคำฟ้องของยูเครนระบุว่ารัสเซียได้ตีความสนธิสัญญาดังกล่าวไม่ถูกต้อง
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย อ้างว่าการที่รัสเซียใช้ปฏิบัติการพิเศษทางทหารต่อยูเครนนั้น เป็นไปด้วย “ความชอบธรรม” เพื่อปกป้องประชาชนในยูเครนตะวันออกจากการถูกกดขี่ข่มเหงและถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยาวนานถึง 8 ปี
ยูเครนระบุว่า ไม่มีหลักฐานที่แสดงว่ามีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เกิดขึ้นในยูเครนตะวันออก และยูเครนร้องขอต่อศาลเพื่อให้มีคำวินิจฉัยว่า “รัสเซียไม่มีอำนาจตามกฎหมาย” ที่จะทำการโจมตียูเครนโดยอ้างเหตุผลเพื่อป้องกันการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
แม้ว่าที่ผ่านมา ICJ มักใช้เวลาหลายปีก่อนที่จะมีการตัดสินคดีถึงที่สุดระหว่างรัฐที่เป็นคู่ขัดแย้ง แต่ ICJ ก็มีกระบวนการเร่งรัดพิจารณาคดี และมีอำนาจในการ “ออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว” เพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์เลวร้ายลง ก่อนที่จะทำการวินิจฉัยในประเด็นพื้นฐานอื่นๆ
ทั้งนี้ คำตัดสินของ ICJ มีผลผูกพันทางกฎหมายที่ประเทศต่างๆต้องปฏิบัติตาม เมื่อศาลโลกตัดสินคดีความใดแล้วต้องถือว่าเป็นอันยุติ ไม่มีการอุทธรณ์หรือฎีกาแต่อย่างใด และหากคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ปฏิบัติตามคำตัดสินของศาลโลก คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งสามารถร้องเรียนไปยังคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติให้พิจารณาดำเนินการต่อไปได้ บางครั้ง UN อาจเรียกร้องให้ประเทศสมาชิก UN ทำการคว่ำบาตรประเทศที่ไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลโลก ซึ่งจะได้ผลมากน้อยเพียงใดย่อมขึ้นกับความร่วมมือของประเทศสมาชิกอื่น ๆ ด้วย
ชาติสมาชิก ICJ มีมากกว่า 150 ประเทศ ซึ่งรวมถึงรัสเซีย ยูเครน และสหรัฐอเมริกา