ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐอเมริกา เปิดเผยรายงานเมื่อวันศุกร์ (22 เม.ย.) ระบุว่า โรคโควิด-19 ซึ่งยังคงแพร่ระบาดอย่างหนัก เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับที่ 3 ในสหรัฐในปี 2564 รองจากโรคหัวใจ และ โรคมะเร็ง ที่ครองอันดับหนึ่งและสอง ตามลำดับ
รายงานระบุว่า อัตราการเสียชีวิตโดยรวมที่ปรับตามอายุนั้นเพิ่มขึ้นเกือบ 1% ในปี 2564 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า (2563)
CDC เปิดเผยว่า อัตราการเสียชีวิตโดยรวมในประเทศสหรัฐอเมริกา สัดส่วนสูงที่สุดอยู่ในกลุ่มชาวอเมริกันเชื้อสายอินเดียที่ไม่ใช่ชาวฮิสแปนิกหรือชนพื้นเมืองอะแลสกา และกลุ่มคนผิวสีที่ไม่ใช่ชาวฮิสแปนิก หรือชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน
ทั้งนี้ โรคโควิด-19 ยังคงเป็นสาเหตุอันดับที่ 3 ของการเสียชีวิตในสหรัฐเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน รองจากโรคหัวใจและโรคมะเร็ง ตามลำดับ
ในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา CDC เปิดเผยว่าสหรัฐมีผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งสูงเกือบ 603,000 ราย (ข้อมูล ณ ปี 2563) อย่างไรก็ตาม อัตราการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งในประเทศได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง
รายงานระบุว่ามะเร็งยังคงเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับสองในสหรัฐรองจากโรคหัวใจ โดยผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็ง 602,350 ราย แบ่งเป็นหญิง 284,619 ราย และชาย 317,731 ราย
มะเร็งปอดเป็นสาเหตุการเสียชีวิตจากมะเร็งอันดับหนึ่ง ครองสัดส่วน 23% ของการเสียชีวิตทั้งหมด ส่วนมะเร็งชนิดอื่นที่พบบ่อย ได้แก่มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก มะเร็งตับอ่อน มะเร็งเต้านมในสตรี มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งตับ และมะเร็งท่อน้ำดีในตับ
ทั้งนี้ อัตราการเสียชีวิดจากโรคมะเร็งในสหรัฐตลอด 20 ปีที่ผ่านมา นับระหว่างปีพ.ศ. 2544-2563 ลดลง 27% จาก 196.5 ราย เหลือ 144.1 รายต่อประชากร 100,000 คน
ส่วน “โรคหัวใจ” ที่เป็นโรคภัยสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งในสหรัฐนั้น สถิติชี้ว่า โรคหัวใจและโรคหลอดเลือดเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของประชากรสหรัฐ 1 คนในทุกๆ 3 คน และ คร่าชีวิตชาวอเมริกันมากกว่าโรคมะเร็งทุกชนิด และโรคระบบทางเดินหายใจต่าง ๆ เช่น โรคปอดบวม มารวมกัน
สาเหตุของโรคหัวใจนั้นเกิดได้ทั้งจากพันธุกรรมและพฤติกรรม เช่น มีประวัติคนในครอบครัวที่เคยเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดมาก่อนหรือปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อการเกิดโรค เช่น พฤติกรรมการดื่มสุรา สูบบุหรี่ พักผ่อนไม่เพียงพอ ภาวะความเครียดความดัน ไขมันในเลือดสูง อ้วนน้ำหนักเกิน และเบาหวาน เป็นต้น