อียูเตือนบริษัทพลังงานอย่ายอมก้มหัวให้รัสเซีย

นางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เตือนบริษัทด้านพลังงานใน สหภาพยุโรป (EU) ว่า อย่ายอมศิโรราบต่อข้อเรียกร้องของ รัสเซีย ที่ให้จ่ายค่า ก๊าซธรรมชาติ ที่นำเข้าจากรัสเซียเป็น เงินรูเบิล ขณะที่ยุโรปเองกำลังประสบปัญหาในการร่วมมือกันตอบโต้ต่อการที่รัสเซียนำทรัพยากรพลังงานของตนเองไม่ว่าจะเป็นน้ำมันหรือก๊าซธรรมชาติมาใช้เป็นข้อต่อรองกับบรรดาชาติตะวันตก

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า บริษัทก๊าซพรอม ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของรัสเซีย ได้ระงับการจัดส่งก๊าซธรรมชาติให้กับโปแลนด์และบัลแกเรียแล้วเมื่อวานนี้ (27 เม.ย.) เพื่อเป็นตัวอย่างให้เห็นว่า รัสเซียทำจริง ไม่ได้แค่ขู่ หลังจากที่ทั้งสองประเทศข้างต้นไม่ยอมชำระเงินค่าก๊าซธรรมชาติที่ซื้อจากรัสเซีย ด้วยสกุลเงินรูเบิล สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทำให้เป็นที่จับตามองว่า ประเทศที่เป็นผู้บริโภคพลังงานจากรัสเซียรายใหญ่ ๆ อย่างเยอรมนีและอิตาลีจะตอบสนองต่อเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างไร

ในเบื้องต้นนายโรเบิร์ต ฮาเบ็ค รัฐมนตรีเศรษฐกิจของเยอรมนี ออกมากล่าวเตือนว่า ไม่ว่าจะตัดสินใจอย่างไร ก็จะต้องพิจารณาอย่างจริงจังถึงความเสี่ยงที่รัสเซียอาจจะระงับการส่งออกพลังงานมากขึ้นเพื่อเป็นการตอบโต้

เห็นได้ชัดว่า ขณะนี้ยุโรปกำลังประสบปัญหาในการรักษาชาติสมาชิกที่เป็น “แนวร่วม” ในการดำเนินการตอบโต้รัสเซียแบบสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน แหล่งข่าวที่เป็นบุคคลที่ใกล้ชิดกับก๊าซพรอมเปิดเผยว่า บริษัทพลังงานในยุโรปบางราย ยอมปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียแล้ว โดยเอนี (Eni) บริษัทพลังงานรายใหญ่ของประเทศอิตาลี กำลังเตรียมมาตรการต่าง ๆ ที่อาจเอื้อให้สามารถปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของรัสเซียได้ ขณะที่บริษัทยูนิเปอร์ (Uniper) ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของเยอรมนีเชื่อว่า บริษัทจะสามารถซื้อก๊าซจากรัสเซียได้ต่อไปโดยไม่ละเมิดมาตรการคว่ำบาตร

นางฟอน เดอร์ เลเยน ให้ความเห็นว่า บริษัทที่มีสัญญาซื้อขายก๊าซกับรัสเซียอยู่ก่อนแล้ว ไม่ควรปฏิบัติตามข้อเรียกร้องใหม่ของรัสเซีย(เกี่ยวกับการชำระด้วยเงินรูเบิล)  มิฉะนั้น จะถือเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียของอียู ซึ่งจะเป็นความเสี่ยงสูงสำหรับบริษัทเหล่านั้น

ทั้งนี้ เมื่อกำหนดการชำระเงินต่าง ๆ จะเริ่มครบกำหนดในเดือนหน้า รัฐบาลและบริษัทต่าง ๆ ทั่วยุโรปต้องตัดสินใจว่าจะปฏิบัติตามกฎใหม่ หรือเสี่ยงที่จะต้องใช้มาตรการปันส่วนระหว่างก๊าซกัน

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เยอรมนีย้ำจุดยืนที่ว่า บริษัทต่าง ๆ ควรจ่ายค่าก๊าซเป็นเงินยูโรต่อไปตามแนวทางของสหภาพยุโรป (EU) ขณะเดียวกัน นายฮาเบ็ค รัฐมนตรีเศรษฐกิจของเยอรมนี กล่าวว่า ยุโรปต้องเตรียมความพร้อมที่จะเผชิญกับการถูกระงับการส่งออกพลังงานจากรัสเซียมากขึ้น

รายงานข่าวระบุว่า เมื่อวันพุธ (27 เม.ย.) รัสเซียเพิ่งระงับการส่งออกก๊าซธรรมชาติให้ประเทศโปแลนด์และบัลแกเรีย หลังจากที่ทั้ง 2 ประเทศปฏิเสธที่จะจ่ายค่าก๊าซให้รัสเซียเป็นสกุลเงินรูเบิล ทำให้เป็นการกดดันวิกฤตด้านพลังงานขาดแคลนในยุโรปให้หนักขึ้นทันที ในวันเดียวกันนั้น ราคาก๊าซธรรมชาติพุ่งสูงขึ้นถึง +20% ภายในวันเดียว จากคำสั่งการระงับการส่งออกก๊าซธรรมชาติของรัสเซียครั้งนี้