คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน รายงานว่า จีน ตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ใน เซี่ยงไฮ้ เพิ่ม 788 ราย และผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ 7,084 รายในวันเสาร์ (30 เม.ย.) ซึ่งในจำนวนผู้ติดเชื้อยืนยันที่พบใหม่นี้ มี 683 รายที่ก่อนหน้านี้จัดเป็นพาหะที่ไม่แสดงอาการ
สำนักข่าวซินหัว สื่อใหญ่ของจีนรายงานว่า มี ผู้ป่วยเสียชีวิตจากโควิด เพิ่ม 38 ราย ในวันเสาร์ (30 เม.ย.) ทุกรายอยู่ในเซี่ยงไฮ้ โดยผู้เสียชีวิตที่มีอายุมากที่สุดคือ 97 ปี และอายุเฉลี่ยของกลุ่มผู้เสียชีวิตคือ 80.9 ปี ผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากโควิดทั้ง 38 รายต่างมีปัญหาด้านสุขภาพที่รุนแรง
ขณะเดียวกันมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 ออกจากโรงพยาบาลหลังหายดีรวม 3,055 ราย ( ณ วันเสาร์ 30 เม.ย.) สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเซี่ยงไฮ้ยังคงอยู่ภายใต้การเฝ้าระวังและควบคุมอย่างเข้มงวด แม้จะมีการผ่อนคลายในบางเขต ขณะที่ชาวจีนในพื้นที่อื่น ๆ เริ่มออกเดินทางช่วงวันหยุดยาว 5 วันเนื่องในวันแรงงาน (1 พ.ค.) แต่คาดว่าจำนวนผู้เดินทางจะลดลงหลังเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ในเมืองใหญ่
คำสั่งล็อกดาวน์ทั้งเมืองเซี่ยงไฮ้นั้น เริ่มขึ้นนับจากต้นเดือนเมษายนทำให้ชีวิตประจำวันของคนเซี่ยงไฮ้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง และจุดชนวนความกังวลเกี่ยวกับอาหาร นอกจากนี้ ประชาชนยังมีความหวาดหวั่นว่า พวกเขาอาจจะต้องถูกส่งตัวไปยังศูนย์กักตัวที่แน่นขนัดหากตรวจพบการติดเชื้อ
มาตรการเข้มงวดระดับสูงสุดเพื่อปิดกั้นอาคารที่พักอาศัย ซึ่งรวมถึงการตั้งรั้วบริเวณทางเข้าอาคาร ยิ่งทำให้ประชาชนขุ่นเคือง โดยบางส่วนเลือกระบายความไม่พอใจในโซเชียลมีเดีย และบางคนออกไปเคาะหม้อเคาะกะทะนอกหน้าต่าง บ้างปะทะกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข
อย่างไรก็ตาม แม้หลายพื้นที่ยังถูกล็อกดาวน์อยู่ แต่เจ้าหน้าที่เซี่ยงไฮ้ประกาศเมื่อวันอาทิตย์ (1 พ.ค.) ว่า จะผ่อนคลายมาตรการจำกัดบางพื้นที่หลังจากสามารถควบคุมความเสี่ยงในการระบาดของโควิด-19 ในระดับชุมชนได้แล้ว ซึ่งไม่รวมผู้ติดเชื้อในศูนย์กักกัน ทั้งนี้ ทางการเซี่ยงไฮ้แถลงว่า 6 เขตจากทั้งหมด 16 เขตในเซี่ยงไฮ้ได้รับ สถานะปลอดโควิด ซึ่งหมายถึงการไม่พบผู้ติดเชื้อใหม่ติดต่อกัน 3 วัน
ระบบขนส่งสาธารณะจะได้รับอนุญาตให้เปิดบริการอีกครั้งใน 5 เขต แต่ประชาชนยังถูกห้ามเดินทางออกนอกเขต ยกเว้นสามารถออกไปซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายยา และไปโรงพยาบาลได้
รายงานข่าวระบุว่า แม้จำนวนผู้ติดเชื้อจะลดลงแล้ว แต่เซี่ยงไฮ้จะเริ่มตรวจโควิดรอบใหม่ด้วยวิธีพีซีอาร์และแอนติเจนเริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ (1 พ.ค.) จนถึงวันที่ 7 พ.ค.นี้
สถานการณ์ใน "ปักกิ่ง" น่าเป็นห่วงมากขึ้น
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ชาวจีนเริ่มออกเดินทางช่วงวันหยุดยาว 5 วันเนื่องในวันแรงงานแต่คาดว่าจำนวนผู้เดินทางในปีนี้จะลดลงเมื่อเทียบกับปี 2564 ถึง 80% หลังเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ในเมืองใหญ่อย่างกรุงปักกิ่งและนครเซี่ยงไฮ้
ทั้งนี้ ทางการจีนได้ประกาศให้ประชาชนในกรุงปักกิ่งหลีกเลี่ยงการเดินทางที่ไม่จำเป็น และห้ามการรับประทานอาหารภายในร้าน ทั้งยังต้องแสดงผลตรวจเชื้อโควิด-19 หากต้องการเข้าใช้บริการต่างๆ ด้วย
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ปักกิ่งยกระดับมาตรการสกัดโควิด-19 อีกครั้งเมื่อวันอาทิตย์ (1 พ.ค.) ขณะที่เซี่ยงไฮ้เริ่มผ่อนคลายให้ประชาชนบางส่วนได้ออกไปรับอากาศบริสุทธิ์นอกบ้านหลังไม่พบผู้ติดเชื้อนอกเขตกักตัวสองวันติดกันในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
การระบาดของโควิด-19 ในเซี่ยงไฮ้ที่เริ่มต้นในเดือนมีนาคม ถือเป็นการระบาดครั้งร้ายแรงที่สุดของจีนนับจากโรคระบาดดังกล่าวอุบัติขึ้นในช่วงปลายปี 2019 ต่อช่วงต้นปี 2020 โดยมีผู้ติดเชื้อนับแสนและประชาชนถูกสั่งห้ามออกจากบ้าน สร้างความไม่พอใจให้กับคนจำนวนมาก
รายงานข่าวระบุว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในมหานครเซี่ยงไฮ้ที่เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศจีน ตลอดจนความเสี่ยงที่จะเกิดการระบาดในปักกิ่งซึ่งเป็นเมืองหลวง กำลังเป็นบททดสอบสำคัญของนโยบาย “โควิดเป็นศูนย์” หรือ Covid Zero ขณะที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ถูกคาดหวังว่า จะรั้งตำแหน่งประธานาธิบดีต่อเป็นสมัยที่ 3 แบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ปักกิ่ง ที่พบผู้ติดเชื้อรายวันหลักสิบคน ได้เข้าสู่วันที่ 10 ของการระบาดเมื่อวันอาทิตย์ (1 เม.ย.) แต่ทางการยังไม่บังคับใช้คำสั่งล็อกดาวน์ เพียงแต่มีการกักตัวผู้ติดเชื้อในท้องถิ่นกว่า 300 คนนับจากวันที่ 22 เม.ย. นอกจากนี้ ปักกิ่งยังได้ประกาศยกระดับกฎเกณฑ์การเว้นระยะห่างทางสังคมเมื่อวันอาทิตย์ และเริ่มการปูพรมตรวจโควิดในเขตเฉาหยาง ซึ่งเป็นเขตที่มีประชาชนมากที่สุดและมีการระบาดรุนแรงที่สุด โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเดินเคาะประตูบ้านทุกหลังเพื่อเตือนให้ผู้อยู่อาศัยไปรับการตรวจ
รอยเตอร์ระบุว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ประชาชน 22 ล้านคนในกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน ต้องเข้ารับการตรวจโควิดในเขตส่วนใหญ่จากทั้งหมด 16 เขต สถานบันเทิงทั้งหมดระงับการให้บริการ และห้ามนั่งกินอาหารในร้านแล้ว
นอกจากนี้ สวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอในกรุงปักกิ่ง ได้ปิดให้บริการในวันอาทิตย์ ขณะที่ด่านปาต้าหลิงซึ่งเป็นส่วนของกำแพงเมืองจีนที่มีนักท่องเที่ยวเยี่ยมชมมากที่สุด ก็ได้กำหนดให้นักท่องเที่ยวต้องแสดงผลตรวจโควิดเป็นลบก่อน จึงจะสามารถเข้าสู่บริเวณดังกล่าวได้