เจพีมอร์แกนปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นไทย เหตุภาคท่องเที่ยวฟื้นช้า

02 พ.ค. 2565 | 22:54 น.
อัปเดตล่าสุด :03 พ.ค. 2565 | 06:19 น.

"เจพีมอร์แกน" ธนาคารรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา ได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นไทยจากระดับ "เพิ่มน้ำหนักการลงทุน" (Overweight) สู่ระดับ "คงน้ำหนักการลงทุน" (Neutral) วานนี้(2 พ.ค.) โดยให้เหตุผลว่า ภาคการท่องเที่ยวของไทยฟื้นตัวได้ค่อนข้างช้า

นักวิเคราะห์จาก เจพีมอร์แกน ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา ได้ปรับ ลดน้ำหนักความน่าลงทุน ของหุ้นไทยจากระดับ "เพิ่มน้ำหนักการลงทุน" (Overweight) สู่ระดับ "คงน้ำหนักการลงทุน" (Neutral) วานนี้(2 พ.ค.) โดยให้เหตุผลว่า ภาคการท่องเที่ยวของไทย ฟื้นตัวค่อนข้างช้า อันเป็นผลจาก ปัญหาเงินเฟ้อ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ประกอบกับ สถานการณ์โควิด-19 ในจีนซึ่งยังคงมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ทำให้นักท่องเที่ยวจีนยังไม่กลับมาเยือนไทยตามที่คาดหวัง 

 

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกนมองอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยกำลังเผชิญกับอุปสรรคมากมาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นทั่วโลก ขณะที่ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นลดลง และเกิดความผันผวนของค่าเงิน

 

รายงานข่าวระบุว่า ไทยซึ่งเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 นับเป็นประเทศแรก ๆ ในเอเชียที่ขณะนี้ได้เปิดพรมแดนให้นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนแล้วเข้าประเทศได้โดยให้กักตัวน้อยมาก โดยอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย ทำรายได้คิดเป็นสัดส่วนถึง 12% ของ GDP ก่อนเกิดการแพร่ระบาด

นักท่องเที่ยวกว่า 1 ใน 4 ของทั้งหมด 40 ล้านคนที่เดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อปี 2562 เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน

นักท่องเที่ยวกว่า 1 ใน 4 ของทั้งหมด 40 ล้านคนที่เดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อปี 2562 เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน แต่แม้เมื่อไทยเปิดประเทศแล้ว เจพีมอร์แกนเปิดเผยว่า การที่รัฐบาลจีนยังคงยึดมั่นกับนโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Zero Covid) อย่างเหนียวแน่น ก็จะทำให้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ เดินทางกลับมาเที่ยวไทยช้าลง

 

ในปีนี้ ไทยจึงคาดหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวไทยระหว่าง 5 ล้านถึง 10 ล้านคนจากประเทศมาเลเซียและประเทศอื่น ๆในอาเซียน

 

อัตราการจองมาเที่ยวไทยล่วงหน้า (forward bookings) ในปีนี้ (2565) คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 25% ของยอดจองในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะที่คาดว่าสิงคโปร์และฟิลิปปินส์จะมียอดจองในปีนี้ที่อัตรา 72% และ 65% ตามลำดับ

 

ข้อมูลอ้างอิง   

JPM downgrades Thailand on fading tourism recovery and worsening macro conditions