นักศึกษา มหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา หลายๆ คนต่างคิดว่า จะผ่านพ้นสัปดาห์สุดท้ายของปีการศึกษา 2021-2022 โดยไม่ต้องมีข้อจำกัดต่าง ๆเพื่อควบคุม การแพร่ระบาดของโควิด-19 อีกต่อไป แต่พวกเขาคิดผิด เพราะขณะนี้บรรดามหาวิทยาลัยใหญ่ๆ ในรัฐนิวยอร์ก เพนซิลเวเนีย แมสซาชูเซตส์ คอนเนตทิคัต และเท็กซัส ได้ประกาศใช้ มาตรการจำกัดการระบาดใหญ่ และหลายแห่งก็กำหนดให้นักศึกษาและบุคลากรต้อง สวมหน้ากากอนามัย อีกครั้งด้วย
นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยฮาวเวิร์ด (Howard University) ในกรุงวอชิงตัน ได้ตัดสินใจเปลี่ยนกลับมาทำการเรียนการสอนแบบออนไลน์อีกครั้ง ขณะที่มหาวิทยาลัยไรซ์ ในรัฐเท็กซัส มีการแจ้งให้นักศึกษายกเลิกงานเลี้ยงสังสรรค์ที่มีขนาดใหญ่
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า การประกาศข้อกำหนดเหล่านี้มีออกมาประมาณ 3 สัปดาห์ ก่อนที่มหาวิทยาลัยหลายแห่งจะได้จัดพิธีจบการศึกษาโดยไม่มีข้อจำกัดต่างๆ ดังที่หวังไว้ก่อนหน้า
สำหรับนักศึกษาบางคน นับว่าเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันแล้วสำหรับการที่ต้องอยู่ภายใต้มาตราการจำกัดที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19
นีน่า เฮลเลอร์ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 จากมหาวิทยาลัยอเมริกัน ในกรุงวอชิงตันเล่าว่า เมื่อเริ่มปีการศึกษาในเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว หลายๆ คนคิดว่ากำลังเข้าใกล้จุดสิ้นสุดของการระบาดใหญ่แล้ว แต่ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น
มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ยกเลิกข้อกำหนดในการสวมหน้ากากอนามัยเมื่อต้นปีนี้ (2565) หลังจากการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนสิ้นสุดลง แต่ตอนนี้ โอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 กำลังแพร่ระบาดอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา
ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ฟิลาเดลเฟียได้นำข้อกำหนดเรื่องการสวมหน้ากากกลับมาใช้อีกครั้ง และมหาวิทยาลัยต่างๆ ในเมืองนั้น ไม่ว่าจะเป็น ม.เท็มเปิล หรือมหาวิทยาลัยแห่งเพนซิลเวเนีย ก็ใช้มาตรการนี้ด้วยเช่นเดียวกัน
ที่มหาวิทยาลัยวิลเลียมส์ ในรัฐแมสซาชูเซตส์ อาจารย์บางคนอนุญาตให้นักเรียนเข้าเรียนได้โดยไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัยตั้งแต่เดือนเมษายน แต่หลังจากผ่านไปได้ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ ทางมหาวิทยาลัยก็ได้ออกข้อกำหนดใหม่อีกครั้ง
คิทท์ เออร์แดง นักศึกษาชั้นปีที่สามที่มหาวิทยาลัยวิลเลียมส์กล่าวว่า เพื่อนๆ นักศึกษาติดเชื้อโควิด-19 กันเป็นจำนวนมาก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความไม่แน่นอนอย่างมากในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้
ส่วนที่มหาวิทยาลัยฮาวเวิร์ด ในกรุงวอชิงตัน นักศึกษาอ่านหนังสือเพื่อสอบปลายภาค และเรียนหนังสือจากที่บ้าน เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใน วอชิงตัน ดีซี เพิ่มขึ้น 100% ในเดือนเมษายน แต่ทางมหาวิทยาลัยยังไม่ได้เปลี่ยนกำหนดการพิธีจบการศึกษาซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 7 พฤษภาคมนี้
ลีอา เดอกรู๊ท นักศึกษาที่มหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน ในกรุงวอชิงตัน บอกว่า เธอไม่เคยหยุดสวมหน้ากากอนามัยเลย และการที่ต้องกลับมาสวมหน้ากากอีกครั้งถือเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ต้องทำ
ส่วนมหาวิทยาลัยอื่นๆ เช่น จอนส์ ฮอพกินส์ ในบัลติมอร์ กำหนดให้นักศึกษาตรวจหาเชื้อโควิด-19 สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ขณะที่ มหาวิทยาลัยแห่งนิวเม็กซิโก ประกาศให้นักศึกษาทุกคนต้องฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ภายในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ แทนมาตรการแสดงผลการตรวจหาเชื้อไวรัสที่เป็นลบทุกสัปดาห์
อนิตา บาร์คกิง หัวหน้าคณะทำงานเฉพาะกิจด้านโควิด-19 ของสมาคม American College Health Association กล่าวว่า โรคระบาดยังคงมีอยู่ แม้ว่านักศึกษาทุกคนอยากจะให้มันจบลงมากแค่ไหนก็ตาม แต่นั่นก็เป็นได้แค่เพียงความคาดหวังเท่านั้นเอง