สื่อทางการ เกาหลีเหนือ รายงานวานนี้ (19 พ.ค.) ว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสเพิ่มอีก 262,270 คน และมีผู้เสียชีวิตอีก 1 คน ทำให้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตัวเลขรวมของ ผู้ป่วยโควิด-19 ในประเทศนี้พุ่งขึ้นเป็นเกือบ 2 ล้านคน โดยมี ผู้เสียชีวิตจากโควิด จำนวนทั้งหมด 63 คนแล้ว
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ยังสงสัยเกี่ยวกับข้อมูลภาวะ การระบาดใหญ่ของโควิด-19 ในเกาหลีเหนือ และเชื่อว่า รัฐบาลกรุงเปียงยางกำลังพยายามซ่อนข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงด้วยเหตุผลทางการเมืองหรือไม่ ทั้งนี้เป็นเพราะไม่มีเครื่องมือและกำลังพลมากพอที่จะติดตามเส้นทางการระบาดของไวรัสดังกล่าว
ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์หลายรายพยายามเตือนมานานแล้วว่า การระบาดใหญ่ของโคโรนาไวรัสในเกาหลีเหนืออาจส่งผลทำลายล้างรุนแรงต่อประเทศที่ประชาชนส่วนใหญ่อยู่ในสภาพยากจนข้นแค้น และไม่มีระบบสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ซ้ำยังมุ่งเน้นการดูแลเฉพาะผู้มีฐานะร่ำรวยเท่านั้น
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้เสนอยื่นความช่วยเหลือด้านวัคซีนโควิด-19 และความช่วยเหลืออื่น ๆ ให้กับเกาหลีเหนือไปแล้ว แต่นักวิเคราะห์เตือนว่า แม้ท่ามกลางสถานการณ์รุนแรงเช่นในปัจจุบัน กรุงเปียงยางก็มีแนวโน้มที่จะไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากภายนอกประเทศอยู่ดี
ศาสตราจารย์ เลฟ เอริค-อีสลีย์ จากมหาวิทยาลัยอีฮวา ในกรุงโซล ให้ความเห็นว่า แม้เกาหลีเหนือจะยืนยันพบการติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ นั่นไม่ได้หมายความว่า รัฐบาลกรุงเปียงยางยินดีที่จะยื่นมือออกมารับความช่วยเหลือจากประชาคมโลก แต่น่าจะเลือกเดินหน้าทำการทดสอบอาวุธของตนต่อไป เพื่อ “หลีกเลี่ยงการแสดงความอ่อนแอ” นั่นเอง
ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือปฏิเสธหรือเพิกเฉยต่อข้อเสนอด้านความช่วยเหลือเกี่ยวกับโควิด-19 ซึ่งรวมถึงการนำส่งวัคซีนจากโครงการโคแวกซ์ (COVAX) ที่องค์การสหประชาชาติให้การสนับสนุนอยู่
องค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานว่า ในเวลานี้มีเพียง 2 ประเทศในโลก คือเกาหลีเหนือและเอริเทรีย ที่ยังไม่ได้เริ่มการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดเป็นวงกว้างภายในประเทศเลย