องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้ ซึ่งเป็นผลกระทบจากการทำสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมทั้งการปิดเมืองและท่าเรือตามนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของจีน ซึ่งกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ OECD คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3.0% ในปี 2565 ลดลงจากตัวเลขคาดการณ์ 4.5% ในเดือนธ.ค.2564
ส่วนเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา OECD คาดการณ์ว่าจะขยายตัวที่อัตรา 2.5% ในปีนี้ ขณะที่ยูโรโซนจะขยายตัว 2.6% และสหราชอาณาจักรขยายตัว 3.6%
OECD ยังเตือนว่าเศรษฐกิจในตลาดเกิดใหม่จะได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนอาหารอันเนื่องจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ขณะที่คาดว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 4.4% ในปีนี้ ส่วนอินเดียจะขยายตัว 6.9% และบราซิลขยายตัว 0.6%
ก่อนหน้านั้น ในวันอังคาร (8 มิ.ย.) ธนาคารโลก หรือเวิลด์แบงก์ ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ลงเช่นกัน โดยปรับลดลงจากเดิมที่คาดการณ์ไว้ในระดับ 4.1% เมื่อเดือนม.ค.เหลือเพียง 2.9% ด้วยปัจจัยหลักเดียวกันคือผลกระทบจากการที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครนในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา และผลพวงจากการที่ชาติตะวันตกคว่ำบาตรรัสเซีย ซึ่งได้ซ้ำเติมความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
นายเดวิด มัลพาส ประธานธนาคารโลก กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกได้รับผลกระทบจากการทำสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน การที่จีนใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ภาวะชะงักงันของห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งความเสี่ยงของการเกิดภาวะ stagflation ซึ่งเป็นภาวะเศรษฐกิจที่มีการขยายตัวอ่อนแอ แต่เงินเฟ้อพุ่งสูง ซึ่งเคยเกิดขึ้นในช่วงทศวรรษ 1970
ธนาคารโลกคาดว่าเศรษฐกิจของประเทศที่พัฒนาแล้วจะมีการขยายตัวเพียง 2.6% ในปีนี้ และชะลอตัวสู่ 2.2% ในปีหน้า หลังจากพุ่งแตะ 5.1% ในปีที่แล้ว ส่วนเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาและตลาดเกิดใหม่จะมีการขยายตัว 3.4% ในปีนี้ หลังจากพุ่งแตะ 6.6% ในปีที่แล้ว
นอกจากนี้ ธนาคารโลกคาดว่าเศรษฐกิจของยูเครนจะหดตัว 45.1% ในปีนี้ ขณะที่เศรษฐกิจรัสเซียจะหดตัว 8.9%
ดูคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจโลกของเวิลด์แบงก์ทั้งหมด (เดือนมิ.ย.2565) คลิก ที่นี่
ดูคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจโลกของ OECD ทั้งหมด (เดือนมิ.ย.2565) คลิก ที่นี่