เหตุการณ์ลอบสังหาร ช็อกโลกครั้งนี้ เกิดขึ้นขณะที่ นายชินโซ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กำลังยืนปราศรัยหาเสียงให้ลูกพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) เพื่อการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาที่กำลังจะมีขึ้นวันอาทิตย์นี้ (10 ก.ค.) จุดเกิดเหตุเป็นถนนใกล้สถานีรถไฟยามาโตะ-ไซไดจิ ในจังหวัดนารา ภูมิภาคคันไซ ซึ่งอยู่ทางภาคตะวันตกของญี่ปุ่น อาเบะยืนปราศรัยอยู่บนแท่นยกพื้นให้ตัวเขาอยู่สูงกว่าพื้นถนนเพื่อที่ประชาชนจะมองเห็นเขาได้ชัดเจน
เวลาราว 11.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ชายกลางคนวัย 41 ปี ในเสื้อยืดสีเทา กางเกงขายาว สวมแว่นสายตาและปกปิดใบหน้าด้วยหน้ากากอนามัยสีขาว เดินเข้ามาทางด้านหลังแท่นยกพื้นที่นายอาเบะยืนอยู่ ผู้คนจำนวนมากที่ยืนฟังคำปราศรัยได้ยินเสียงดังคล้ายปืนคำรามลั่น นายอาเบะยังคงยืนอยู่ เขาเอี้ยวตัวมองมาทางด้านหลัง มีเสียงดังขึ้นอีกครั้งพร้อมควันสีขาวฟุ้งกระจาย คราวนี้อดีตนายกฯของญี่ปุ่นทรุดลง พยานเห็นเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขามีเลือดเปรอะเปื้อน นายอาเบะล้มนอนในวงล้อมของผู้ที่รีบรุดเข้ามาช่วยเหลือ ทีมอารักขาเข้าชาร์จชายต้องสงสัยคนนั้นในทันที เขาถูกรวบตัวลงกับพื้น และถูกคุมตัวในจุดเกิดเหตุ ตำรวจนำตัวเขาไปสอบปากคำ ขณะที่ร่างของนายอาเบะถูกอุ้มขึ้นเปลและนำส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนด้วยเฮลิคอปเตอร์ เจ้าหน้าที่ระบุว่าเขาอยู่ในอาการหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน และแพทย์ตรวจไม่พบสัญญาณชีพแล้วเมื่อเขามาถึง แต่แพทย์ก็พยายามปั๊มหัวใจและทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาชีวิตของเขาเอาไว้
มือสังหารเปิดปากยอมรับลงมือเอง “ผมตั้งใจฆ่าเขา”
ตำรวจซึ่งตั้งทีมสอบประกอบด้วยสมาชิก 90 คน แถลงในเวลาต่อมาหลังจากที่แพทย์ยืนยันการเสียชีวิตของนายอาเบะในเวลาประมาณ 17.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ว่า ชายผู้ถูกจับกุมคือ นายเท็ตสึยะ ยามากามิ วัย 41 ปี เป็นชาวเมืองนารา อดีตเจ้าหน้าที่กองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลของญี่ปุ่น หรือเทียบเท่ากับทหารเรือ ระหว่างปี 2545-2548 ข้อมูลที่น่าตกใจคือ เขาเรียบจบปริญญาเอก และเคยเป็นรองศาสตราจารย์ด้านการแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัดสำหรับผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม เชี่ยวชาญกายวิภาคของมนุษย์เป็นอย่างดี
ยามากามิยอมรับสารภาพกับตำรวจว่า เขามีความเคียดแค้นไม่พอใจในตัวนายอาเบะ เขาเชื่อว่านายอาเบะมีความเกี่ยวข้องทางใดทางหนึ่งกับ องค์กรหนึ่ง ที่เขาเกลียดชัง สื่อญี่ปุ่นระบุว่า องค์กรนี้ทำให้แม่ของเขาต้องสูญเสียเงินไปจำนวนมากและทำให้ครอบครัวของเขาประสบปัญหา ตำรวจเปิดเผยว่า นายยามากามิให้การกับตำรวจญี่ปุ่นว่า เขาไม่พอใจนโยบายหลายเรื่องของอดีตนายกฯอาเบะ และตั้งใจมา "เพื่อสังหาร"
อาวุธปืนที่นายยามากามิใช้ลั่นไกสังหารและพบตกในที่เกิดเหตุ เป็นปืนแบบประดิษฐ์เองที่ดูด้วยสายตาคร่าว ๆ เหมือนท่อ2ท่อความยาวประมาณ 15 นิ้ว ถูกยึดติดกันด้วยเทปสีดำที่พันไว้หลายรอบ ทั้งนี้ เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีกฎหมายเข้มงวดและกระบวนการขอครอบครองอาวุธปืนก็ยุ่งยากมาก คาดว่าอาจเป็นสาเหตุให้ผู้ก่อเหตุรายนี้ ตัดสินใจประดิษฐ์ปืนขึ้นใช้เอง
ในการบุกค้นบ้านพักของเขาซึ่งเป็นอพาร์ทเมนท์ขนาดหนึ่งห้อง ตำรวจยังสามารถยึดอาวุธที่มีลักษณะคล้ายกัน คือเป็นปืนสั้นประดิษฐ์เองอีกหลายกระบอก ตำรวจได้ยึดคอมพิวเตอร์ส่วนตัวของเขาเอาไว้ด้วย
ทั้งนี้ เบื้องต้นนายยามากามิถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่า แต่อาจถูกเปลี่ยนเป็นการฆ่าคนตายโดยเจตนา เนื่องจากเขาให้การ สารภาพกับตำรวจว่า ตั้งใจที่จะลงมือเพื่อสังหารนายอาเบะ
ด้านนายแพทย์ฮิเดะทาดะ ฟุกุชิมะ หัวหน้าแผนกฉุกเฉิน รพ. มหาวิทยาลัยแพทย์นารา แถลงวานนี้ (8 ก.ค.)ว่า ขณะร่างของนายชินโซ อาเบะ ถูกนำส่งถึงโรงพยาบาลเวลา 12.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น แพทย์ไม่พบสัญญาณชีพของเขาแล้ว ทางโรงพยาบาลได้ระดมทีมแพทย์ 10 คนเพื่อร่วมปฏิบัติการรักษาอาการบาดเจ็บของเขา ก่อนจะเพิ่มจำนวนแพทย์เป็น 20 คนเพื่อยื้อชีวิตของเขาอย่างสุดความสามารถ
แพทย์เปิดเผยว่า นายอาเบะเสียเลือดมาก และมีแผลฉกรรจ์ 2 จุด คือที่คอด้านขวา และอีกแผลหนึ่งที่ด้านหน้าอกซ้าย ซึ่งแผลลึกจนถึงหัวใจ กระทบเส้นเลือดแดง ซึ่งเป็นเหตุทำให้เขาเสียเลือดมาก และเป็นสาเหตุการเสียชีวิต ทั้งนี้ แพทย์พยายามห้ามเลือดและให้เลือดกว่า 100 ยูนิต แต่ไม่สำเร็จ นอกจากนี้ แพทย์ไม่พบกระสุนสังหารระหว่างผ่าตัด รวมเวลาที่คณะแพทย์ใช้ในการยื้อชีวิตนายอาเบะราว 4 ชั่วโมง 30 นาที ก่อนประกาศการอสัญกรรมของอดีตนายกรัฐมนตรีผู้นี้อย่างเป็นทางการ